ไม่ว่านักขี่คนไหนก็ต้องการให้รถของตัวเองแรงดีไม่มีตกและถ้าเป็นได้ก็อยากจะปรับให้แรงขึ้นแน่นอน  แต่ปัญหาที่ตามมาคือกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้น ย่อมต้องกินน้ำมันมากขึ้นตามไปด้วย และปวดใจทุกครั้งที่ขี่อยู่เพลินๆแต่ดันเหลือบไปเห็นเกจน้ำมันลดฮวบทั้งๆที่ขี่ไปได้ไม่ไกล ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไข และนี่คือคำแนะนำจาก Jason Hanson จากสำนักแต่ง Speed Performance Plus ว่าความต้องการของนักขี่โดยเฉพาะคนที่ขี่รถเครื่องยนต์ 101ci กับ 103ci ว่าอยากให้รถขี่ได้ไกลขึ้น ประหยัดน้ำมันขึ้นแต่ไม่อยากให้แรงตกต้องทำอย่างไรกับเครื่องยนต์ของพวกเขาบ้าง

ซึ่งก่อนจะไปจัดการกับเครื่องยนต์นั้นก็ต้องมาดูปัจจัยรวมไปถึงพฤติกรรมการขี่กันเสียก่อนเพราะนักขี่หลายคนยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของปัจจัยเหล่านี้ และที่เห็นได้ชัดที่สุดคือขี่ไปโดยที่ไม่รู้ว่าลมยางของรถที่ขี่อยู่เป็นประจำนั้นมันอ่อนเกินไป โดยเฉพาะรถประเภท Bagger ที่บรรทุกสัมภาระไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ รวมไปถึงนักขี่ที่มีคนซ้อนท้ายอยู่แทบทุกวัน ทำให้รถวิ่งได้ช้าลงและเครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น ซึ่งไม่ต่างกับการขี่รถไปพร้อมกับบีบเบรกมือเบาๆตลอดเวลา มาดูที่การปรับแต่งเครื่องยนต์บ้าง สิ่งง่ายที่สุดสำหรับการปรับแต่งคือการเปลี่ยนชุดกรองอากาศ และชุด Spark plug ใหม่ และทำการจูนเครื่องบน Dyno บวกกับเข้าระบบด้วยโปรแกรม AutoTune ของทาง SPP ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการที่มีระบบระบายอากาศที่ดีก็จะยิ่งทำให้เครื่องยนต์ร้อนช้าลง แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่เหมาะสำหรับคนที่ขี่รถทางไกลหรือใช้ความเร็วค่อนข้างสูง โดยจะมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อเมื่อเครื่องยนต์ทำงานที่ 2,000 ถึง 3,500 รอบต่อนาที แต่ก็ใช่ว่าคนที่ขี่รถในเมืองหรือใช้รถไปทำงานจะปรับแต่งด้วยวิธีนี้แล้วจะไม่เห็นผลอะไรเลยเพียงแค่ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันจะแสดงผลออกมาไม่เต็มที่เท่านั้น แต่ก็ถือว่าช่วยประหยัดไปได้พอสมควร

ส่วนของรถใหม่โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 101ci นั้น Jason และนำให้เปลี่ยนลูกสูบและแคมใหม่ โดยเปลี่ยนไปใช้ลูกสูบ 10.5:1 ก็จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน และยิ่งเป็นเครื่องยนต์ประเภท gear drive จะมีความเสถียรกว่าประเภท chain drive ซึ่งการเปลี่ยนพาร์ทภายในต่างๆแบบนี้จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้นุ่มนวลขึ้น ร้อนช้าลง และประหยัดน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย

*** การเปลี่ยนพาร์ทภายในต่างๆจะต้องทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ***

------
เรียบเรียงโดย... HD-Playground
ที่มา... hotbikeweb.com