![]()
ที่โรงแรมนี้มีอาหารเช้าให้ด้วยครับ แต่เป็นแบบมื้อแก้ขัด... ลุงชาวอินเดียคนนี้เป็นคนดูแลโรงแรม ต่างจากลุงอินเดียที่ Rodeway ใน Inglewood หน้ามือเป็นหลังมือ ลุงคนนี้เขาอัธยาศัยดีมาก ๆ ครับ นี่กำลังเล่นกับลูกของแขกที่มาพัก... ![]() ออกจาก Gilroy ถ้าจะขี่ขึ้น San Francisco ก็คงจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง แต่อย่างนั้นมันง่ายไปครับ ไม่เหมาะกับพวกชอบหาเรื่อง เลยขี่วกกลับลงมาทางใต้อีกรอบนึง เพราะเมื่อคืนมองไม่เห็นวิว ![]() อากาศเขตนี้จะขมุกขมัวตลอดแถมมีละอองน้ำทั้งวันครับ ![]()
![]() ขี่วกกลับไปที่ Monterey อยากจะไปดูงาน Vintage Car ที่เขาบอกว่าคนแห่ไปกันเยอะ... ![]()
![]() ![]() ละอองน้ำเม็ดเล็ก ๆ จะเกาะเต็มชิลด์หน้า เพราะเป็นเมืองติดทะเล ![]() มาตัดเข้าเส้น Highway 1 วิ่งเลียบทะเลอีกครั้ง ![]() ![]() ![]() มาถึง Monterey ต้องมากินอาหารทะเล... แต่ผมมาถึงตอน 10 โมงเช้า เลยไม่รู้จะกินอะไร... แวะถ่ายรูปอย่างเดียวละกัน ![]() สะพานปลาของที่นี่ เอากล้อง Go Pro ติดไว้ด้านหน้ารถ เลยได้ภาพช่วงเช้ามาเยอะหน่อย ![]() ไม่แน่ใจว่าเจ้านี่เรียกว่า Albatross หรือเปล่า สงสัยมารอกินซากปลาจากเรือประมง... ![]() ![]() ขับวนดูแล้วไม่เจองาน Vintage Car เลยแวะเติมน้ำมันเดี๋ยวไป Camel ดีกว่า มี Triumph แต่งแนว Old School สองคันขี่ผ่านหน้าไป เสียงดังลั่นเลย ![]() ออกจาก Monterey มาแค่ไม่ถึง 20 นาที ก็มาที่เมือง Camel ด้านล่างสุดของเมืองจะเป็นชายหาด อากาศเย็นครับ นี่ขนาด Summer ยังหนาวจนเล่นน้ำไม่ได้ อย่างนี้ฝรั่งถึงชอบมาเที่ยวทะเลเมืองไทย... ![]() ![]() ขี่วกขึ้นมาด้านบน จะเป็นเมืองตากอากาศเล็ก ๆ มีร้านสวย ๆ อยู่เพียบ ![]() ฝุ่นไม่ค่อยมี รถเลยเงาแว๊บ!! เวลาจอดรถก็จอดได้เต็มช่อง เหมือนกับรถยนต์ 1 คัน ดีจริง ๆ ![]() ที่ Camel เขาก็มี Meeting เล็ก ๆ ของคนใช้รถ Vintage Car กันครับ ![]() รถคันนี้ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ แต่คันใหญ่จริง ๆ ![]() ส่วนคันนี้มาเป็นก๊วน เป็น Electric Super Car ชื่อว่า Tesla ![]() ภายในตามสไตล์ Super Car นั่งแล้วเมื่อยแน่นอน ![]() เป็นรถใช้ไฟฟ้า 100% นะครับ ชาร์จเต็มทีนึงเห็นบอกว่าวิ่งได้ 150 ไมล์ ![]() มาจอดโชว์ แถมมีโต๊ะมาแจกโบรชัวร์ด้วยเผื่อมีคนสนใจ ![]() มื้อเที่ยงของวันนี้ ขอเปลี่ยนมาเป็นอาหารของบรรพบุรุษซักหน่อย อาหารจีนใน Camel ครับ เจ้าของร้านเป็นคน Hong Kong อพยพมาอยู่ได้ 5 ปีแล้ว พอเข้าไปนั่งสั่งอาหาร เขาก็มองหน้าถามว่าคนจีนหรือเปล่า เลยบอกว่าเป็นคนจีนที่ไปเกิดในไทย อย่ามาชวนพูดจีนนะ เดี๋ยวยิ่ง งง เข้าไปใหญ่!! พอเห็นรถ เขาก็ถามอีก ขี่มาคนเดียวเหรอ? คันนี้ BMW หรือเปล่า? เออ... อยู่อเมริกาไม่รู้จัก HD แต่ดันรู้จัก BMW... ![]() เลยเริ่มต้นด้วย ชาจีนร้อน ๆ กับซุปเนื้อปูแบบเสฉวน ![]() อ่านเมนู เห็นมีหมี่ผัดเนื้อวัว กินแต่แฮมเบอร์เกอร์ทุกวัน อยากกินบะหมี่เลยสั่งมาซะ!! ![]()
อ่าน ไปอีกบรรทัด มีเนื้อวัวเจงกิสข่าน อุตส่าห์ถามว่าจานใหญ่ไหม แกบอกว่าไม่ใหญ่ แต่พอยกมาเสิร์ฟแล้วอยากห่อกลับไปกินมื้อเย็น จานเบ้อเริ่ม แถมมีข้าวสวยโปะมาให้อีก... แต่สรุปแล้ว ก็ฟาดเรียบทั้ง 2 จานครับ กินแต่อาหารฝรั่งมันเลี่ยน ได้มากินอาหารเอเซีย ค่อยยังชั่วหน่อย งานนี้ตั้งใจว่า มื้อเย็นได้กินอาหารไทยที่ร้าน Thai Basil ของพี่ตุ้ยใน SF หายอยากแน่นอน แต่สุดท้าย อดกิน!! ![]()
![]() ออกจาก Santa Cruz ขึ้นเหนือไปเรื่อย ๆ เส้นนี้ผมว่าสวยโรแมนติกดีจริง ๆ ถ้าขับรถแบบเปิดประทุนพาภรรยานั่งมาด้วยคงจะดี ![]() ด้านซ้ายจะเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก ยิ่งใหญ่จริง ๆ โลกใบนี้ ![]() ช่วงเลียบมหาสมุทร อากาศจะเย็นแล้วก็ไม่มีแดด เพราะเมฆจะก่อตัวเต็มไปหมด แต่พอตัดข้ามเขามาด้านใน แดดจะจ้า อากาศดี... ![]() พอตัดข้ามมาปุ๊ป คราวนี้จะกลายเป็น อ่าวซานฟรานซิสโกอยู่ทางด้านขวามือแทน ![]() ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้เมื่อวาน Dudley Perkins แห่ง South San Francisco ดีลเลอร์ Harley ที่เก่าแก่ที่สุด เริ่มมาตั้งแต่ปี 1914 ครับ ![]() เดินเข้ามาจะพบกับมุมถ้วยรางวัล เรื่องราวต่าง ๆ ในอดีตตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ![]() รถแข่งที่ได้รางวัลต่าง ๆ ของดีลเลอร์แห่งนี้ ![]() บนฝาผนังจะมีรูปภาพตั้งแต่อดีตติดอยู่เต็มไปหมด เขาเป็นดีลเลอร์มาจนปัจจุบันเป็น Generation ที่ 4 แล้วครับ ![]() ชั้นสองจะเป็น Showroom มีทั้งรถ, อุปกรณ์ตกแต่ง, เสื้อผ้า, อะไหล่... ใหญ่ดีจริง ๆ ![]() ![]() มุมของแต่งและอะไหล่ ที่นี่ผมได้พบกับ Brad เพื่อนของ Mr. Ruby แห่ง PHD@RCA เลยเช็คอะไหล่สำหรับเจ้า Black Springer ซะเลย ![]()
![]()
![]() รถแข่งทางทางเรียบในปี 1969 KR Flat Track Racer ![]() รถสองจังหวะของ Harley ที่ถูกผลิตในปี 1952 Hummer ดูทรงแล้วคล้าย ๆ พวก MZ เลย ![]() ส่วนคันนี้อยากได้มาขี่ซักรอบ Road Glide Ultra ดูอลังการดีจริง ๆ ![]() ผนังทางเข้ามองมาจากชั้นสอง จะเห็นเครื่องยนต์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของ Harley วางโชว์จนสุดเพดาน ![]() ทางเดินออกด้านหน้า จะมีบานกระจกให้มองเป็นส่วน Service พอดีมีลุงคนนี้กำลังซ่อมรถอยู่ พอแกเห็นผมยกกล้องขึ้นมาจะถ่ายภาพ เลยรีบหยิบเครื่องมือมาแอ๊คท่าใหญ่ ![]() สงสัยกลัวไม่หล่อ แกเลยทำไม้ทำมือบอกว่ารอเดี๋ยว... รีบไปหาหมวกมาสวม พร้อมกับทำท่าขันน็อตโชว์ซะเลย ![]() ออกจาก Dudley Perkins วิ่งเข้าสู่ตัวเมือง San Francisco สายไฟของรถรางห้อยระโยงระยางเต็มถนนไปหมด แยกเยอะซะจนขี่ได้ไม่เกินเกียร์ 3 ก็ต้องเบรกติดไฟแดง ![]() ตึกสมัยใหม่กับตึกสมัยเก่า สลับกันไปมา ดูแปลกตาดีครับ ![]() ![]() เลยแวะมาที่ Dudley Perkins ในเมืองซะหน่อย ซื้อของที่ระลึกว่ามาถึง San Francisco แล้ว ![]() ![]() สาขานี้ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับ Fisherman Dwarf ศูนย์รวมนักท่องเที่ยว มีคนเข้ามาซื้อของอยู่ตลอดเวลาครับ ![]() ไหน ๆ ก็มาถึง SF แล้ว ถ้าพลาด Golden Gate ไปคงเสียดายแย่ ![]() วันนี้อากาศไม่เป็นใจ เมฆกลุ่มใหญ่ลอยมาจากทะเล บังสะพานซะมองเห็นแค่เสาสะพาน ถ้าเป็นวันฟ้าใส ๆ คงสวยมากแน่ ๆ ![]() มองออกไปด้านหน้าจะเห็น Alcatraz อยู่ลิบ ๆ ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว เพราะมัวแต่ขี่รถ ![]() บริเวณนี้มีคนมาจัดปาร์ตี้, นั่งเล่น, กินข้าว, เด็กวิ่งเล่น วุ่นวายไปหมดครับ ถ้ามาตอนเช้า ๆ คงจะดี ![]()
![]()
![]() เสียดายวันนี้เลยอดมองเห็นยอดสะพานเลย ![]() ข้ามสะพาน Golden Gate มาเรียบร้อยแล้ว มองดูใน GPS จะเห็นมีอีกสะพานที่เชื่อมไปยังฝั่ง Richmond เลยหาเรื่องขับอ้อมไปดูซะหน่อย จริง ๆ แล้วถ้าวกกลับเข้ามาที่ฝั่ง SF ก็ได้แวะไปกินอาหารไทยสบายไปแล้ว อุตส่าห์ขับอ้อมเมืองไปอีก 20 ไมล์ ตอนนี้เวลา ทุ่มกว่า ๆ ได้ข้ามสะพานสมใจ... ![]()
![]() ![]() มอง ไปด้านหน้าจะเห็นเมฆก่อตัวปิดท้องฟ้าซะมืดไปหมด ด้านนั้นคือ San Francisco ครับ แดดเริ่มหมด เพราะกว่าจะขี่ข้ามมาจนถึง Oakland ก็ 2 ทุ่มพอดี มาถึงช่วงนี้แล้ว แบตฯ ในตัวเริ่มหมด... ขี่ตาม GPS บอกให้เลี้ยวขวา ก็หลงไปตรง ต้องอ้อมไปกลับรถอีก 5 ไมล์ กลับมาได้บอกให้เลี้ยวซ้าย ก็วิ่งตรงไปอีกฝั่ง ต้องเสียเวลาไปอีก ขี่ซะมึน... พอจะขี่ข้ามสะพาน Bay Bridge เพื่อที่จะกลับไปกินอาหารที่ Thai Basil ก็มืดพอดี แถมด้วยรถติดยาวเหยียดเป็นกิโล เลยต้องยอมแพ้ วกกลับมาที่ฝั่ง Oakland หาของกินตามยถากรรม ![]()
กว่าจะวนหาโรงแรมที่พักเจอก็ร่วม ๆ 3 ทุ่ม แถมด้วยพนักงานหาชื่อที่จองเอาไว้ไม่เจอ เพราะมาสายไป 1 วัน ![]() เมือง Oakland จะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ต่างจากทางฝั่ง San Francisco พอตกดึกก็จะค่อนข้างเปลี่ยว ยิ่งขี่มอเตอร์ไซค์มาคนเดียว ยิ่งรู้สึกไม่ค่อยจะปลอดภัยซักเท่าไหร่ จอดรถไว้หน้าร้าน เข้าไปนั่งกินอาหารในร้าน พนักงานยังต้องปิดประตูร้านไว้เลย ถ้าใครจะมาเที่ยว แนะนำให้หาที่นอนฝั่ง SF จะดีกว่าครับ ![]()
และแล้วก็ได้เข้าที่พักตอน 4 ทุ่มกว่า เริ่มขี่ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ทริปนี้ตะบี้ตะบันขี่จริง ๆ |