หลังจากผ่านการรับรองจาก U.S. Environmental Protection Agency อย่างเป็นทางการแล้ว Harey-Davidson ก็ไม่รอช้า ประกาศรายชื่อไลน์อัพปี 2020 ออกมาทันที โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ Road Glide Limited, Low Rider S และ CVO Tri Glide กับการ “re-styled” โมเดล Heritage Classic โดยรายงานล่าสุดตามที่ผู้ผลิตอเมริกันครูเซอร์เผยออกมานั้น ไม่มีชื่อของ Superlow, 1200 Custom กับ Forty-Eight Special, Electra Glide Ultra Classic, Ultra Limited Low และ CVO Road Glide รวมถึง Road Glide Ultra ที่ถูกแทนที่ด้วย Road Glide Limited ไปแล้ว

สำหรับโมเดล CVO กับ Tri ทั้งหมด รวมถึง LiveWire นั้นจะติดตั้งระบบ Reflex Defensive Rider System (RDRS) เอาไว้เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานของรถ เช่นเดียวกับระบบ cornering linked braking system, cornering ABS, cornering traction control, drag-torque slip control, tire pressure monitoring system และ vehicle hold control นอกจากนั้น ระบบ RDRS นี้ยังจะรวมอยู่ในตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับโมเดล touring ทุกรุ่นยกเว้น Electra Glide รุ่นแสตนดาร์ดอีกด้วย โดย H-D Connect system แอพพิลเคชันบนสมาร์ทโฟนที่ประกาศใช้งานร่วมกับ LiveWire เป็นโมเดลแรก ก็จะปรับปรุงสามารถใช้งานร่วมกับมอเตอร์ไซค์โมเดลอื่นๆในไลน์อัพปี 2020 ได้ด้วยเช่นกัน

2020 Harley-Davidson Road Glide Limited

เป็นโมเดล Limited ที่จะเข้ามาแทนที่ Road Glide Ultra ในไลน์อัพปี 2020 ที่จะมาพร้อมกับ แฟริ่งแบบ shark-nose โคมไฟหน้า dual DaymakerLED วินด์สกรีน 13.5 นิ้ว และเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight ส่วนความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 27.2 นิ้ว ซึ่งสูงกว่า Road Glide Ultra ประมาณ 2 นิ้ว ด้านราคานั้น ผู้ผลิตระบุเอาไว้ที่ 28,299 ดอลลาร์

2020 Harley-Davidson Low Rider S

ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ แฮนเดิลบาร์แบบ Motocross-style ติดตั้งเอาไว้บนไรเซอร์ 4 นิ้ว กับช่วงหน้าแบบ upside down ซึ่งทางผู้ผลิตระบุว่าเป็นการเซ็ต riding postion ให้ดุดันและสบายตัวยิ่งขึ้น โดยมีการเปลี่ยนดีไซน์แฟริ่งขนาดกำลังพอเหมาะที่ครอบโคมไฟหน้าอยู่เล็กน้อย เบาะนั่งเดียวแบบท้ายยกสูง ส่วนความสูงของเบาะนั่งจะอยู่ที่ 26.5 นิ้ว โดยน้ำหนักแห้งจะอยู่ที่ประมาณ 65 ปอนด์ (294 กิโลกรัม) Harley-Davidson Low Rider S ปี 2020 ราคาเริ่มต้นที่ 17,999 ดอลลาร์

2020 Harley-Davidson Heritage Classic

เป็นโมเดลในไลน์อัพปี 2020 ที่มีการ “re-styled” ด้วยการเติมพาร์ทแบบโครมเงาวับเขาไปแทนที่พาร์ทเดิมที่เป็นสีดำล้วนแบบ blacked-out โดยพาร์ทที่เป็นสีโครมได้ได้แก่ air cleaner และ covers ของระบบ powertrain โคมไฟหน้า เครื่องยนต์ พุชร็อด ท่อไอเสีย แฮนเดิลบาร์ และ side cover ทั้งนี้ Harley-Davidson ยังคงมีรายชื่อของโมเดล Heritage Classic 114 แบบ blacked-out  อยู่ในไลน์อัพปี 2020 ด้วยเช่นกัน โดยตัวเลขที่ระบุอยู่บนป้ายราคาสำหรับโมเดล re-styled คือ 18,999 ดอลลาร์ และราคาของเวอร์ชั่นที่ไม่มีการ re-styled เริ่มต้นที่ 20,449 ดอลลาร์

2020 Harley-Davidson CVO Tri Glide

แบรนด์อเมริกันครูเซอร์ยักษ์ใหญ่ได้ตัดสินใจเลือก CVO Tri Glide เข้ามาแทนที่ CVO Road Glide ในไลน์อัพ Custom Vehicle Operations ปี 2020 ซึ่งที่ผ่านมา Tri Glide ก็เป็นอีกหนึ่งโมเดลที่สาวกเรียกร้องให้มีโมเดลพรีเมียม CVO โดย 2020 CVO Tri Glide จะติดตั้งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ci วงล้อติดตั้งอลูมิเนียมแบบ Tomahawk contrast cut โดยระบบไฟทุกดวงที่ติดอยู่บนรถจะใช้หลอด LED ทั้งหมด วินด์สกรีนแบบต่ำ โดยมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่าง heated grips และ muffler ท่อไอเสีย Kahuna Collection ซึ่ง 48,999 ดอลลาร์คือตัวเลขบนป้านราคาของ 2020 CVO Tri Glide ที่มีชุดสีแบบ premium paint ให้เลือก 2 แบบคือ สีขาว Blizzard White กับวงล้อสีเทา และสีดำ Black Stardust กับวงล้อสีดำเงา

------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorcycle.com