มอเตอร์ไซค์ Norton P11 เริ่มขึ้นในปี 1966 จากการที่ Bob Blair ตัวแทนจำหน่าย Norton ใน Southern California ได้เสนอแนวคิดในการนำเครื่องยนต์ 750 ซีซี Parallel Twin ของ Norton Atlas มาติดตั้งเข้ากับเฟรมของมอเตอร์ไซค์ Scrambler ที่ใช้การแข่งขันอย่าง Matchless G85 CS ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นมอเตอร์ไซค์ “desert sled” ที่จะสามารถต่อกร หรืออาจถึงขั้นเอาชนะมอเตอร์ไซค์ที่ไร้เทียมทานในชั่วโมงนั้นอย่าง BSA Hornet และ Triumph TR6C ได้อย่างแน่นอน
โดยเฟรมของ Matchless G85 CS นั้นเป็นท่อโลหะ Renolds 531 ที่ผลิตขึ้นจากการผสมผสานกันระหว่าง manganese–molybdenum กับ medium-carbon steel alloy ซึ่งเป็นโลหะเกรดที่ใช้สำหรับบรรดารถแข่งทั้งสองและสี่ล้อ รวมถึงใช้เป็นโครงสร้างของเครื่องบินอีกด้วย
โดยผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ ZDS Motors อย่าง Bob Blair ได้เสนอไอเดียเขาเขาให้กับ Joseph Berliner เจ้าของ Berliner Motor Corporation ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Norton ในปี 1961 ซึ่งตัวของ Joseph เองก็ไม่ค่อยปลื้มกับความคิดนี้เท่าไรนัก เพราะเขาคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ และไม่คิดที่จะลองทำแบบนั้นเสียด้วยเพราะดูแล้วมันไม่น่าจะคุ้มค่า แต่อย่างไรก็ตามหาก Bob ต้องการจะลองดูจริงๆก็ให้สร้างรถต้นแบบขึ้นมาให้เขาได้เห็นเป็นรูปธรรมสักคัน
Clint Eastwood กับ Norton P11 ใน London
ด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าของ Bob Blair ทำให้เขาถอดเครื่องยนต์ออกจากมอเตอร์ไซค์ Norton N15 คันใหม่เอี่ยมที่เพิ่งแกะออกจากเคสไม้สดๆร้อนๆ มาติดตั้งเข้ากับเฟรมของ Matchless G85 CS ที่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์นักจนกลายเป็นรถรุ่นต้นแบบได้สำเร็จ และสิ่งที่ Joseph คิดเอาไว้ก็เป็นจริง เพราะต้องใช้งบประมาณพอสมควรสำหรับมอเตอร์ไซค์รุ่นต้นแบบคันนี้ และการที่จะติดตั้งชุดเกียร์ AMC สี่สปีดเข้ากับเครื่องยนต์ 750 ซีซี ต้องผ่านการปรับแต่งหลายจุด แถมยังต้องใช้เวลากว่าสามสัปดาห์ในการปรับแต่งรถต้นแบบคันนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงทดสอบสมรรถนะ โดยเป็นยอดนักแข่งอย่าง Mike Patrick ที่นำรถออกไปตะลุยทะเลทราย และกลับมาพร้อมย้ำกับ Bob Blair ว่าไม่ต้องปรับปรุงอะไรแล้วสำหรับมอเตอร์ไซค์โมเดลนี้
ต่อมาทาง ZDS Motors และ Mike ลูกชายของ Joseph Berliner ได้เปิดตัวมอเตอร์ไซค์รุ่นต้นแบบในชื่อ “Project 11” ที่ London ซึ่งกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมก็ทำให้ Mr. Dennis Poore เจ้าของคนใหม่ของ Norton Villiers ตัดสินใจจับมอเตอร์ไซค์ต้นแบบโมเดลนี้ไปศึกษาและนำเข้าสู่สายการผลิตในปี 1967 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เหล่าผู้บริหารและทีมงานของ AMC (Associated Motor Cycles) ดูจะไม่เชื่อมั่นและให้ความสนใจกับรถต้นแบบที่ Bob Blair ส่งข้ามทะเลมายังประเทศอังกฤษสักเท่าไรนัก
แม้ว่า Bob Blair จะย้ำอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรแล้วสำหรับโมเดลนี้ แต่ทีมงานของ Norton ที่อังกฤษเห็นต่าง และพวกเขาก็ปรับปรุงเจ้า “Project 11” ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างชัดเจน โดยรถรุ่นโปรดักท์จะเปลี่ยนจากระบบจุดระเบิดแบบแม่เหล็กไฟฟ้า magneto ignition system ของรุ่นต้นแบบไปใช้ระบบจุดระเบิดไฟฟ้าแบบขดลวดคู่ twin coil capacitor system เปลี่ยนจากคาร์บูเรเตอร์แบบ monobloc มาใช้คาร์บูเรเตอร์แบบ twin Amal Concentric เพิ่มแผ่นการ์ดรองใต้เครื่องยนต์ และเพิ่มชุดหน้าปัดเรือนไมล์เพื่อระบุความเร็วที่แน่นอน
ด้วยสมรรถนะของรถทำให้ผู้คนที่ Norton ประเทศอังกฤษเรียกมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ว่า “Cheetah 45” แต่ด้วยชื่อที่นำเสนอต่อสื่อสาธารณะคือ “Project 11” ทำให้ถูกย่อเหลือเพียง “P11” เท่านั้น และประกอบขึ้นในโรงงานของ Norton ที่ Woodwich, London แบบพาร์ท bin specials เพื่อที่จะสามารถใช้อะไหล่ที่เหลืออยู่ในคลังมาติดตั้งเข้าไปได้ ส่วนรถต้นแบบถูกส่งกลับคืนสู่ ZDS ที่อเมริกา ซึ่งในเวลาต่อมารถต้นแบบก็ถูกส่งข้ามทะเลมายังประเทศอังกฤษอีกครั้ง โดยมีชายนิรนามที่อาศัยอยู่ใกล้ London เป็นเจ้าของ หลังจาก ZDS ปิดกิจการลง
พิสูจน์สมรรถนะ
หลังจากในปี P11 รุ่นโปรดักท์มาถึง ZDS ติดป้ายราคาให้กับมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่นี้ที่ 1,339 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าราคาสูงมาทีเดียวสำหรับแบรนด์ที่ยังไม่มีชื่อเสียงมากนักในวงการรถแข่ง off-road กระทั่ง Mike Patrick ได้นำมอเตอร์ไซค์ Desert Sleds รุ่นนี้ไปดัดแปลงให้เข้ากับความคุ้นเคยของเขาและนำไปใช้แข่งในขันในปี 1968 และสามารถชนะเลิศ Heavyweight Championship ได้ทันทีในปีนั้น และชัยชนะครั้งนี้ก็ได้กระตุ้นยอดขายให้กับ P11 ได้อย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่ในปีถัดมา มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สองจังหวะ รุ่น lightweight ก็เข้ามาครองตลาด ฉุดให้ยอดขายของ P11 ตกลงอย่างเห็นได้ชัด แม้นักแข่งอย่าง Mike Patrick และอีกหลายคนจำใจต้องใช้งานรถแข่งเครื่องยนต์สองจังหวะ ในการแข่งขันแต่เขาเองก็ยังยืนยันว่า Norton P11 ยังคงเป็นมอเตอร์ไซค์จ้าวทะเลทรายสำหรับเขาอยู่เสมอ
Norton P11A และ Norton Ranger
Norton P11A เป็นมอเตอร์ไซค์โมเดล P11 ที่เน้นการใช้งานทั่วไป ซึ่งส่วนที่แตกต่างกันก็คือเบาะนั่งที่เป็นมิตรกับนักขี่มากขึ้น มีน้ำหนักมากกว่า และการเซ็ตอัพท่อไอเสียในตำแหน่งที่ต่ำกว่า
ส่วน Norton P11A Ranger นั้นเป็นโมเดลที่ตามออกมาในปี 1969 ออกแบบมาเพื่อการขี่บนถนนโดยเฉพาะ แต่ด้วยการปรับแต่งเฉพาะส่วนทำให้ต้องใช้อะไหล่ในที่เหลือค้างสต็อกของพาร์ทพิเศษอยู่ในการประกอบขึ้นเป็นโมเดลนี้ หรือก็คือ P11 ถูกสร้างขึ้นมากกว่าสี่เวอร์ชัน ซึ่งมีทั้งเวอร์ชันความจุถังเชื้อเพลิงขนาด 3.6 แกลลอน (13 ลิตร) และ 2.2 แกลลอน (8 ลิตร) นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนช่วงหน้า เฟรม และแฮนเดิลบาร์ ซึ่งรวมถึงระบบจุดระเบิดอีก 2 แบบ
โมเดลสุดท้ายของ Norton P11A Ranger นั้นอยู่ในระหว่างที่ Norton กำลังพัฒนา Norton Commando ทำให้โมเดล Ranger ชุดสุดท้ายใช้งานฝาครอบเสื้อสูบแบบเดียวกับของ Commando รวมถึงปรับปรุงขาตั้งให้แข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเชื่อมต่อไฟสัญญาณเข้ากับเบรกหน้า และติดคำว่า “Ranger 750” เอาที่ถังเชื่อเพลิงกับ ฝาครอบแบตเตอรี่ ส่วนด้านสมรรถนะนั้นถือว่ายังคงยอดเยี่ยม หลักฐานก็คือ Loe Goff ได้พิสูจน์ความเร็วแบบ Drag race ซึ่งสามารถทำเวลาเป็นสถิติที่ 11.58 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุด 118 mph (189.9 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
Clint Eastwood กับ P11 ของเขา
NORTON P11, P11A, AND RANGER SPECIFICATIONS
เครื่องยนต์ : 745cc OHV vertical twin cylinder air cooled ของ Norton Atlas
ความจุถังเชื้อเพลิง : 2.7 แกลลอน (10 ลิตร)
ระบบส่งกำลัง : AMC สี่สปีด และโซ่ขับเคลื่อน
เฟรม : Modified Matchless G85 CS แบบ dual down-tube Reynolds 531 alloy steel
ระบบกันสะเทือน : ช่วงหน้า dual Teledraulic กันสะเทือนหลัง dual Girling shocks แบบadjustable pre-load
วงล้อ : ล้อหน้า Akront WM2 ขนาด 19 นิ้ว ติดตั้ง SLS drum brake 7 นิ้ว ล้อหลัง WM3 ขนาด18 นิ้วติดตั้งชุดเบรก SLS G50 magnesium hub
ยางล้อ : ล้อหน้าขนาด 3.5×19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 4×18 นิ้ว
ความสูงของเบาะ : 32.75 นิ้ว
น้ำหนัก (แห้ง) : 345 ปอนด์ (156 กิโลกรัม)
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... silodrome.com