2019 Triumph Speed Twin มอเตอร์ไซค์ที่นำเสนอความคลาสสิกที่จะพูดกันง่ายๆก็คงจะเป็น Bonneville T120 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ของ Thruxton แถมด้วยการปรับน่านั่งด้วยแฮนเดิลบาร์ยกสูง และย่อตำแหน่งของพักเท้าให้ต่ำลง แต่แม้จะติดตั้งเครื่องยนต์ของ Thruxton แต่ความดุดันทรงพลังนั้น ดูจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจาก T120 อยู่พอสมควร
ด้วยเครื่องยนต์ High Power parallel-Twin 1,200 ซีซี ของ Thruxton ที่แม้จะผ่านการปรับแต่งบางส่วนอย่าง crankshaft ที่มีน้ำหนักเบาลง หรือการใช้ cam cover ที่ทำจากแมกนีเซียมทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักเบาลงกว่าเวอร์ชันต้นแบบมากพอดู แม้ว่าน้ำหนักจะเบาลงกว่าเดิมแต่สมรรถนะก็ไม่ได้ด้วยไปกว่าเดิมเลยแม้แต่น้อย โดยระบบคลัตช์สามารถลดแรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ลงไปได้กว่า 23% ซึ่งส่งผลให้เครื่องยนต์สร้างกำลังได้ 95.7 แรงม้าที่ 6,750 rpm แรงบิดสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ 82.6 ฟุต-ปอนด์ที่ 4,950 rpm อีกทั้งเครื่องยนต์ยังรองรับการขี่ในหลากหลายโหมด ซึ่งการตอบสนองของคันเร่งนั้นรวดเร็วทันใจในทุกโหมดการขี่ ด้านการเข้าโค้งนั้นก็ถือว่าเข้าและออกโค้งได้คล่องตัวสมกับที่มีการเซ็ตอัพที่รวมจุดเด่นของ Bonneville T120 และ Thruxton เข้าไว้ด้วยกัน slip-assist clutch ทำให้การขี่ลื่นไหลและนุ่มนวลแต่ก็มีส่วนทำให้นักขี่ไม่รู้สึกถึงความดุดันในแบบที่เคยสัมผัสได้ใน T120 หรือเร้าใจที่ได้จาก Thruxton
การลดแรงเฉื่อยที่ Triumph ได้พัฒนาขึ้นนี้จนกลายเป็นจุดเด่นของ Speed Twin ยังรวมถึงระบบเบรก ซึ่งติดตั้งชุดเบรก Brembo axial-mount 4 piston calipers มาพร้อมดิสก์เบรก floating ขนาด 305 มิลลิเมตร และยางล้อ Pirelli Diablo Rosso III ซึ่งดิสก์เบรกที่ล้อหน้านี้มีส่วนในการลดน้ำหนักของรถได้ถึง 6.2 ปอนด์ (2.9 กิโลกรัม) ซึ่งทาง Triumph เคลมว่ามีส่วนช่วยลดแรงเฉื่อยได้ถึง 28% ส่วนดิสก์เบรกที่ล้อหลังสามารถลดแรงเฉื่อยได้ราว 43%
ระบบกันสะเทือนของ Speed Twin เป็นช่วงหน้า 41 มม. และกันสะเทือนหลังคู่ Preload-adjustable ทำงานได้ค่อนข้างดี แต่ก็มีกระด้างให้รู้สึกได้บ้างเล็กน้อยเวลาขี่บนถนนที่ไม่ค่อยเรียบ ตัวเฟรมอลูมิเนียมใหม่ที่ช่วยให้รถเบาลงและเพื่อติดตั้งเข้ากับสวิงอาร์มแล้วก็ยังช่วยขยายฐานล้อเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้งอีกด้วย และตามที่ได้บอกเอาไว้ถึงแฮนเดิลบาร์อลูมิเนียมดูเหมือนจะดัดแปลงมาจากโมเดล Speed Triple ถูกนำมาเปลี่ยนเข้าไปแทนที่แฮนด์บาร์แบบคลิป-ออนของ Thruxton นั้นนอกจากจะทำให้การบังคับเลี้ยงง่ายขึ้นแล้ว ตำแหน่งและท่านั่งของนักขี่ก็ค่อนข้างผ่อนคลายด้วย แต่ยังต้องมีการโน้มตัวเล็กน้อย ส่วนตำแหน่งของพักเท้านั้นเป็นแบบมิดคอนโทรลที่ค่อนไปทางด้านหลังเล็กน้อยซึ่งนักขี่ก็ต้องงอเข่ามากกว่าพักเท้าแบบมิดคอนโทรลทั่วไปเล็กน้อย
คันเร่งไฟฟ้า ride-by-wire กับโหมดการขี่สามโหมด Rain, Road, และ Sport โดยโหมด Road นั้นจะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขี่ความเร็วไม่สูงนัก นอกจากนี้นักขี่ยังสามรถเลือกปิดการใช้งาน Traction control แต่การทำงานของระบบอื่นๆที่ตั้งค่าเอาไว้ในแต่ละโหมดการขี่จะยังคงทำงานอยู่ โดยมีระบบ ABS ติดมาเป็นระบบมาตรฐานตามข้อกฎหมายของยุโรป เรือนไมล์ถูกออกแบบตามสไตล์เรโทรผสมกับหน้าจอดิจิตัล LCD ซึ่งจะมีการแสดงระยะการขี่ที่สามารถขี่ได้ก่อนที่เชื้อเพลิงในถังความจุ 14 ลิตรจะหมดลง โดยระยะไกลสุดที่ Triumph Speed Twin ทำได้คือ 240 กิโลเมตร
โดยรวมแล้วหากมอง Triumph Speed Twin เป็นโมเดลที่ Triumph วางเอาไว้เพื่ออุดช่องว่างตรงกลางของ T120 และ Thruxton ซึ่งเป็นโมเดลที่รวมจุดเด่นของทั้งสองโมเดลเอาไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งขี่สนุกเปิดคันเร่งได้รวดเร็วทันใจด้วยเครื่องยนต์กำลังสูงในแบบของ Thruxton กับท่านั่งที่ผ่อนคลายขี่ระยะไกลได้สบายๆแบบ T120 และอาจกลายเป็นมอเตอร์ไซค์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกที่ร้อนแรงที่สุด ส่วนกำหนดออกจำหน่ายนั้นคาดว่าเป็นช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ และราคาอาจจะเริ่มต้นที่ 12,100 ดอลลาร์
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... motorcycle.com