สำหรับการแข่งมอเตอร์ไซค์ Drag bike ในอเมริกา การวางเครื่องยนต์สองตัวลงบนแชสซีรถคันเดียวแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่แทบจะพบเจอได้ทั่วไปเลยก็ว่าได้ ซึ่ง Bonnie Truett ก็เคยลงแข่งด้วยมอเตอร์ไซค์ที่ติดตั้งเครื่อง v-twin สองลูกเอาไว้ในช่วงกลางยุค 70s กระทั่งเวลาผ่านไปอีกราวสิบปี Elmer Trett ก็มาพร้อมกับ “Freight Train” มอเตอร์ไซค์ twin engine ที่ทำความเร็วได้ดีกว่ามอเตอร์ไซค์ของ Bonnie Truett โดยสามารถวิ่งระยะควอเตอร์ไมล์ได้ต่ำกว่า 7 วินาทีเท่านั้น
หากข้ามฟากไปอีกซีกโลกอย่างในประเทศญี่ปุ่น มอเตอร์ไซค์ twin engine ที่เห็นอยู่นี้ถือว่าเป็นคันแรกของวงการสองล้อญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังมอเตอร์ไซค์คัสตอมสุดเจ๋งคันนี้คือ Kentaro Nakano นายช่างแห่ง Hot Shop จากเมือง Kyoto โดยรถแดร็กคัสตอม Harley twin engine คันนี้สามารถคว้ารางวัลจากแม็กกาซีนสองล้อยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Hot Bike และ Vibes ที่ Mooneyes Show ได้ถึงสองรางวัล โดยมิสเตอร์ Nakano เผยว่าเขาได้เริ่มโปรเจ็คต์คัสตอมมอเตอร์ไซค์คันนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2017 โดยมีรถแข่งแดร็กจากยุค 70s เป็นต้นแบบ และนำเครื่องยนต์ของ Sportster XLCH มาใช้ติดตั้งเอาไว้บนเฟรมเหล็ก
เครื่องยนต์ลูกแรกเป็นเครื่องของ vintage ironhead ปี 1969 ส่วนอีกลูกหนึ่งเป็นเครื่องของ vintage ironhead เช่นกันแต่เป็นของโมเดลรุ่นที่เก่าประมาณสองหรือสามปี นอกจากนี้ยังมีการนำคาร์บูเรเตอร์ S&S Super B มาใช้งานอีกด้วย จุดสำคัญที่ Nakano ใช้สร้างเสียงของเครื่องยนต์ให้มีความใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ของ Harley ที่รอบ Idle และเสียงเหมือนเครื่องยนต์หลายสูบของรถญี่ปุ่นในช่วงรอบเครื่องสูงๆ คือการปรับจังหวะ Timing ของเครื่องยนต์ให้เกิดจังหวะเหลื่อมกันเพื่อทำให้เกิดช่องว่างระหว่างจังหวะต่างๆของท่อไอเสีย
ระบบเกียร์ของสปอร์ตสเตอร์ยุค 60s ถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับยุคอื่นๆ และยิ่งใช้เครื่องยนต์ถึงสองตัวแบบนี้ทำให้ Nakano เลือกนำชุดเกียร์สี่สปีดของ Big twin ยุค 80s มาใช้แทนของเดิม ช่วงหน้าของ Ducati 750 Imola ยุค 70s ถูกนำมาติดเข้าไปแทนที่ช่วงหน้าของ Harley-Davidson งานสีเป็นฝีมือของ GRIMB Krazy Painting ช็อปสีที่ได้รับความนิยมจากเหล่าบิลเดอร์ระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น ในส่วนของวงล้อ Nakano เลือกใช้เป็นวงล้ออลูมิเนียม classic H-type ขนาด 18 นิ้วทั้งล้อหน้าและล้อหลังมาพร้อมกับยางสลิค M&H
ชุดเบรกหน้าเป็นของ Airheart ผู้เชี่ยวชาญในวงการ Drag racing จาก Minnesota ส่วนเบรกหลังเลือกใช้ของ Wilwood แดร็กบาร์แบบแฮนด์เมดที่ติดตั้งเข้าไปนั้นช่วยเสริมให้หน้าปัดเรือนไมล์ของ Harley-Davidson ยุค 1970s ที่ติดตั้งเอาไว้โดดเด่นยิ่งขึ้น โดย Nakano เตรียมที่จะส่ง ‘Double Trouble’ คันนี้เข้าร่วมการแข่งขันในเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะได้ Takahashi ช่างเครื่องมือพระกาฬมาช่วยปรับแต่งเครื่องยนต์อีกแรงหนึ่ง และหากทุกอย่างราบรื่นก็อาจจะมีสปอนด์เซอร์เข้ามาสนับสนุนในการไปวิ่งสร้างสถิติที่ Bonneville Salt Track ก็เป็นได้เช่นกัน
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... bikeexif.com