Airless tire หรือ non-pneumatic tires ก็คือเทคโนโลยียางล้อที่ไม่ต้องอาศัยแรงดันลม ซึ่งใช้หลักการประสานและเรียงตัวของ polyurethane foam เป็นรูปแบบคล้ายรวงผึ้ง เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสำหรับยางล้อชนิดนี้ โดยชั้น polyurethane foam จะทำหน้าที่ช่วยกระจายน้ำหนักของตัวยานพาหนะและดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนแทนที่แรงดันลมในยางล้อแบบ pneumatic และหุ้มด้วยหน้ายางล้อแบบทั่วไปอีกชั้นหนึ่ง จึงทำให้วงล้อชนิดนี้มีลักษณะที่ค่อนข้างใหญ่ ณ ปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้นิยมติดตั้งเข้ากับยานพาหนะขนาดเล็กอย่างเช่น จักรยาน รถกอล์ฟหรือรถตัดหญ้า แต่ก็ยังมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดใหญ่อย่างรถ backhoes ที่ต้องทำงานในพื้นที่เสี่ยงกับการเกิดความเสียหายต่อยางล้อสูง
หลักการทำงานของยางล้อ Airless tire คือเมื่อมีการใช้งาน ชั้นตาราง polyurethane foam จะทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนเหมือนกับแรงดันลมในยางล้อแบบปกติ โดยที่หน้ายางและชั้น polyurethane foam นั้นจะสามารถยุบตัวตามทิศทางของแรงกระทำที่เกิดจากการสัมผัสกับวัตถุ ก่อนที่จะดีดตัวคืนรูปอย่างรวดเร็วเมื่อเคลื่อนที่ผ่านวัตถุไปแล้ว ซึ่งชั้น polyurethane foam นั้นหากมีลักษณะยิ่งถี่มาเท่าไรก็จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่รวมถึงสามารถบังคับรถได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นกัน
ซึ่งจุดที่ถือเป็นข้อดีของยางล้อแบบ Airless tire คือทนทานและไม่แบนอย่างแน่นอน จึงทำให้มีการใช้งานที่ยาวนานกว่ายางล้อแบบปกติ รวมถึงมีความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่าอีกด้วย แถมยังสามารถนำยางล้อชนิดนี้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อีกด้วย และสุดท้ายคือยางล้อชนิดนี้ติดตั้งง่ายไม่ยุ่งยากวุ่นวาย ส่วนสาเหตุที่ยางล้อแบบ Airless tire ยังไม่เป็นที่นิยม หรือมีการนำมาใช้กับมอเตอร์ไซค์อย่างจริงจังก็เพราะความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักของยางล้อจะค่อยๆลดลงเนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นกับตัวยางขณะขับขี่ แม้ว่ายางล้อชนิดนี้จะสามารถทนทานต่อแรงต้านการเคลื่อนที่ได้สูงก็ตาม จึงนิยมใช้กับเฉพาะยานยนต์ที่มีความเร็วต่ำเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นยางล้อที่มีราคาแพง แถมยังมีน้ำหนักค่อนข้างมากและแข็งกว่ายางล้อแบบ pneumatic อยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ก็มียางล้อแบบ Airless tire หรือ non-pneumatic tires ที่สามารถทนทานต่อการใช้งานด้วยความเร็วสูงออกมาบ้างแล้ว โดยความเร็วสูงสุดที่ยางล้อชนิดนี้สามารถทนได้คือ 130 km/h แต่ก็ถือว่ายังไม่สามารถรองรับความเร็วจากมอเตอร์ไซค์ได้อย่างครอบคลุมทุกรุ่นทุกแบรนด์ ซึ่งทางผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่ๆต่างหันมาให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้กันมากขึ้น และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้เหล่านักขี่จะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีนี้อย่างเต็มรูปแบบ
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... wikipedia.org