เรียกว่าไม่ต้องรอคำบอกใบ้จากผู้ผลิตหรือคอยฟังข่าวลืออีกต่อไปแล้วสำหรับใครที่รอคอยมอเตอร์ไซค์สตรีท-แทร็คเกอร์อย่าง FTR1200 และ FTR1200S อยู่ เมื่อทาง Indian Motorcycle ประกาศเปิดตัวมอเตอร์ไซค์สตรีท-แทร็คเกอร์ทั้งสองรุ่นออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยทั้ง FTR1200 และ FTR1200S เป็นมอเตอร์ไซค์ที่มี FTR750 รถแข่ง dirt track เป็นต้นแบบ
สำหรับการที่มอเตอร์รุ่นต้นแบบที่เคยเปิดตัวไป ณ วันที่มีการประกาศพัฒนาโมเดลสตรีท-แทร็คเกอร์นั้นได้ติดตั้งเครื่องยนต์ของ Indian Scout เอาไว้ก็ทำให้ทั้ง FTR1200 และ FTR1200S เป็นรูปเป็นร่างก็พอจะเดาได้อยู่บ้างว่าจะออกมาในโฉมไหน ซึ่งการตัดสินใจเพิ่มพิกัดจาก 750 มาเป็น 1200 นั้นทาง Rich Christoph ได้ให้เหตผลว่า “ผมรู้ในทันทีที่ได้สัมผัสกับรถแข่ง 750 คันนั้นว่าหากมอเตอร์ไซค์คันนี้จะกลายเป้นโปรดักท์โมเดลล่ะก็ องค์ประกอบของมอเตอร์ไซค์คันนี้มันจะต้องสามารถพัฒนาขึ้นได้อีกมาก ซึ่งผมเองก็ต้องการที่จะสนับสนุนเหล่านักขี่ที่ต้องการจะสัมผัสกับมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ขึ้น”
แม้จะใช้เครื่องยนต์ของ Scout กับรถต้นแบบแต่มอเตอร์ไซค์รุ่นโปรดักท์ที่เห็นนี้ไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์ของ Indian Scout หรือก็คือกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของตัวรถนั้นเป็นนส่วนที่ถูกปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ซึ่งหากใช้เครื่องยนต์ของ Scout ก็จะไม่สามารถแสดงความเป็นสปอร์ตออกมาได้เท่าที่ควร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า Indian Motorcycle มุ่งมั่นกับโมเดล FTR นี้มากสักแค่ไหน crankcase ใหม่ถูกออกแบบมาเพื่อปรับให้องศาของเพลาส่งกำลังเกียร์ให้อยู่ในแนวตั้งมากขึ้น และยังทำให้ฐานล้อแคบลงเหลือเพียง 60 นิ้วอีกด้วยแม้จะใช้สวิงอาร์ม Longish ก็ตาม ส่วนที่เป็น cover เครื่องยนต์จากรุ่นต้นแบบที่เดิมเป็นพาร์ทจาก Scout ก็ถูกเปลี่ยนเป็นพาร์ทใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ rocker cover และ crankshaft ที่ใช้อัลลอยน้ำหนักเบาเป็นวัสดุ ทำให้ลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ลดลงไป 4.5 กิโลกรัม เหลือเพียง 83.9 กิโลกรัม
เครื่องยนต์ 1,203cc ตัวใหม่นี้ทาง Indian เคลมว่าสามารถสร้างกำลังสุงสุดได้ถึง 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุดของรอบเครื่องต่ำทำได้ที่ 3,500 rpm ไล่ระดับไปจนถึง 6,000 rpm ที่สร้างแรงบิดสูงสุดที่ 85 ฟุต-ปอนด์ F.C.C. สลิปเปอร์คลัตช์ใหม่และระบบ dual-acting ramp ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์และเร่งเครื่องลื่นไหลยิ่งขึ้น ล้อหน้าเลือกใช้วงล้อขนาด 19 นิ้ว และล้อหลังเป็นวงล้อขนาด 18 นิ้วมาพร้อมกับ Dunlop custom dirt track-replica street ทั้งล้อหน้าและหลัง
ถังเชื้อเพลิงความจุ 12.8 ลิตรติดตั้งเอาไว้ใต้เบาะนั่ง ส่วนที่หน้าตาคล้ายถังเชื้อเพลงที่ติดไว้บนแชสซีแบบ multi-tubular space frame นั้นจะเป็นถังที่เอาไว้เก็บ airbox ขนาดใหญ่ ส่วนระบบกันสะเทือนนั้นเลือกใช้ที่แบบแตกต่างจากมอเตอร์ไซค์สตรีททั่วๆไป โดย Sachs suspension โดยทั้งเวอร์ชั่น FTR1200 และ FTR1200S ซึ่งโมเดลมาตรฐานจะเป็นชุดสีดำล้วนทั้งเฟรมทั้งบอดี้เวิร์คและเรือนไมล์ทรงกลม ส่วนเวอร์ชั่น S จะเสริมด้วยเฟรมถักสีแดง Indian Red และแถบที่ข้างถังสีขาวรวมถึงหน้าจอดิจิตัลแดชขนาด 4.3 นิ้วพร้อมฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสาร และระบบทัชสกรีนที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้อยู่ในสภาวะที่มีแสงจ้ามาก และเซ็นเซอร์ควบคุมความเสถียรของ Bosch และอีกหลายโหมดการขี่ นอกจากนี้ FTR1200 เวอร์ชั่นมาตรฐานมีเพียงระบบ ABS เท่านั้น ส่วนราคาเวอร์ชั่นมาตรฐานจะอยู่ที่ 12,999 ดอลาร์ส่วน เวอร์ชั่น S จเริ่มต้นที่ 15,000 ถึง 16,000 ดอลลาร์ โดยเวอร์ชั่นเฟรมสีแดงจะต้องบวดเพิ่มประมาณ 1,000 ดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับของโมเดลนี้นอกจากจะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่สามารถวิ่งในระยะควอเตอร์ไมล์ได้ภายในเวลา 11 วินาที แต่มอเตอร์ไซค์โมเดลนี้แม้ว่าจะติดตั้ง Counter balancer เอาไว้ก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นเมื่อรอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 9,000 rpm แล้วยังเป็นการใช้พาร์ทที่เป็นแพลทฟอร์มใหม่ของ Indian Motorcycle อีกด้วย เช่นล้อแม็กแบบ 10 ก้าน ฟุตเป็กไล่ไปจนถึงซับเฟรมซึ่งแพลตฟอร์มใหม่นี้อาจกลายเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานของโมเดล adventure-tourer และ a streetfighter หรือแม้แต่ sport-touring ของ Indian Motorcycle ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... cycleworld.com