สำหรับโลกยุคปัจจุบันคำพูดที่ว่า “มอเตอร์ไซค์มีความหมายมากกว่าแค่ยานพาหนะ” อาจไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรูอีกต่อไป เมื่อมอเตอร์ไซค์กลายเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความอิสระ ความแตกต่างและการแสดงตัวตน ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมสองล้อนี้เป็นการรวมเอามอเตอร์ไซค์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต โดยมีเพียงกฎหมายการจราจรเท่านั้นที่เป็นข้อกัด เพียงแค่ก้าวออกจากบ้าน ควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไป ปลดปล่อยจิตใจไปจากความน่าเบื่อหน่าย ความเครียดในการใช้ชีวิตประจำวัน จนกระทั่งสิ่งเหล่านี้กลายมาเป็นอีกหนึ่งแง่มุมในสังคมที่หยั่งรากลึกอยู่ในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ที่แม้แต่คนที่ไม่ต้องการจะเป็นนักขี่ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมของชาวสองล้อไปโดยไม่รู้ตัว
นับตั้งแต่มอเตอร์ไซค์คันแรกที่มีรูปแบบเป็นจักรยานติดตั้งเครื่องยนต์ไอน้ำแบบสองสูบ ซึ่งสร้างขึ้นโดย Sylvester Howard Roger ในปี 1867 ก็ได้จุดประกายให้เหล่านักประดิษฐ์คิดค้นและสร้างมอเตอร์ไซค์หลากหลายรูปแบบตามมา จนกระทั่งมาถึงมอเตอร์ไซค์ไม้ติดตั้งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลงคันแรกที่ Gottlieb Daimler สร้างขึ้น ปี 1885 และส่งต่อมนต์เสน่ห์มายังปี 1903 ที่ William Harley และพี่น้อง Davidson ก่อตั้ง Harley-Davidson ขึ้นมาท่ามกลางคู่แข่งสำคัญอย่าง Indian Motorcycle และ Triumph Motorcycles โลกแห่งมอเตอร์ไซค์ก็ได้เริ่มต้นการจดบันทึกประวัติศาสตร์หน้าแรกขึ้น
บทบาทของมอเตอร์ไซค์นั้นถือว่ามีหลากหลายรูปแบบจริงๆ ทั้งการใช้งานของพลเรือน เป็นหนึ่งในยุทโธปกรณ์สำคัญในสงคราม และยังส่งผลให้เหล่าทหารผ่านศึกใช้มอเตอร์ไซค์สร้างความตื่นเต้นแบบเดียวกับที่เคยได้รับในสมรภูมิหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง จนกระทั่ง Yonkers MC. กลุ่มมอเตอร์ไซค์กลุ่มแรกได้ถือเกิดขึ้นในปี 1903 รวมถึงการเข้าเป็นส่วนหนึ่งในโลกมอเตอร์สปอร์ตรูปแบบต่างๆ จนถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่เหมาะกับการผ่อนคลายที่สุด
The One Percenters
แน่นอนว่าเมื่อสังคมเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนมากหน้าหลายตา มีความแตกต่างของพฤติกรรมและความคิด สังคมนั้นก็ย่อมต้องเกิดเป็นมุมเทาๆขึ้นในวันที่ 4 กรกฎาคม 1947 ได้เกิดเหตุจลาจล Hollister Riot จุดเริ่มต้นของ The One Percenters หรือเหล่ากลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ถูกยอมรับโดย AMA ซึ่งออกแถลงการณ์ว่าเหตุเหตุจลาจล Hollister Riot นั้นไม่เกี่ยวข้องกับไบเกอร์ 99% ที่เคารพกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะสำหรับกลุ่มมอเตอร์ไซค์ outlaw ที่จะสร้างอัตลักษณ์ของพวกเขา และแสดงตัวตนว่าพวกเขาคือเหล่า One Percenters เหล่านักขี่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในกฎที่พวกเขาตั้งขึ้นเอง โดยมีสัญลักษณ์ 1% ทรงข้าวหลามตัดติดเอาไว้ที่เสื้อ Vest ของพวกเขา
โดยมากแล้วเหล่านักขี่ Outlaw อย่าง One Percenters มักถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆในฐานะตัวแทนของมุมมืดในสังคมทั้งรอยสัก ความรุนแรง และอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังชุมชนต่างๆ ซึ่งในความจริงแล้วแม้ว่าเรื่องราวของเหล่า One Percenters ที่ถ่ายทอดผ่านสื่อนั้นจะมีส่วนที่เป็นความจริงอยู่ก็ตาม แต่ก็ใช่ว่ากลุ่มคนและทุกคลับมอเตอร์ไซค์เหล่านี้จะมีแต่นักเลงที่ไม่เคารพกฎหมายอย่างที่สื่อนำเสนอ
วัฒนธรรมสองล้อในวงการบันเทิง
จากการกำเนิดของวัฒนธรรมสองล้อในยุค 50s ที่ส่งผ่านเข้าสู่ยุคเติบโตที่วัฒนธรรมสองล้อกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมโดยมีสื่อบันเทิงเป็นแกนหลัก เริ่มจากการที่ Hollywood ที่นำเหตุจลาจล Hollister Riot มาแต่งเติมจากปลายปากกาของ Frank Rooney จนกลายเป็นนิยายสั้นที่นำเสนอความรุนแรงของแก๊งมอเตอร์ไซค์ในชื่อ The Cyclists’ Raid ลงในนิตยสาร Harper ในปี 1951 ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นานก็มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Wild One โดยใช้เหตุการณ์ Hollister Riot มาเป็นแกนเรื่อง โดยนำเสนอเรื่องราวของสองแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ทั้งยังได้ Marlon Brando มารับบทนำในปี 1953 จนทำให้ยอดนักแสดงผู้นี้กลายเป็นภาพลักษณ์ของนักขี่ outlaw และ American anti-hero ไปในที่สุด
ตามมาด้วยภาพยนตร์ที่เว้นระยะห่างจาก The Wild One ราว 16 ปีภาพยนตร์ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจไปพร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจให้กับทั้งเหล่านักขี่ และผู้คนทั่วไปให้หันมาสนใจวัฒนธรรมสองล้อแล้ว ยังถูกยกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์เสียดสีสังคมที่ดีที่สุดตลอดกาลอย่าง Easy Rider ปี 1969 ซึ่งได้นักแสดงแถวหน้าของวงการ Peter Fonda, Dennis Hopper และ Jack Nicholson มารับบทไบเกอร์ที่ตัดสินใจควบมอเตอร์ไซค์จาก Los Angeles มุ่งหน้าสู่ New Orleans แน่นอนว่าภาพยนตร์ที่จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้แบบนี้ต้องมีองค์ประกอบที่กลมกล่อมลงตัวอย่างเพลงประกอบที่ลงตัวอย่าง Born to be Wild ของ Steppenwolf
ในปี 1971 สารคดี On Any Sunday ที่ได้ Steve McQueen รับบทนำซึ่งกลายมาเป็นสารคดีกีฬามอเตอร์ไซค์ที่ดีที่สุดเช่นกัน กระทั่งมาถึงปี 2008 ช่อง Fx ได้เปิดตัวซีรีส์ยอดนิยมที่เหล่าไบเกอร์ต่างการันตีว่าไม่ควรพลาดอย่าง Sons of Anarchy ที่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าสมาชิกแก๊งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมายที่อยู่ในเมืองแห่งหนึ่งของ California ไม่เพียงภาพยนตร์เท่านั้นที่ถ่ายทอดเรื่องราวของวัฒนธรรมของชาวสองล้อ แต่ยังขยายไปยังวงการเพลงด้วยเช่นกัน โดยเริ่มจากผลงานของ Meat Loaf ที่นำเอฟเฟคเสียงมอเตอร์ไซค์มาใช้จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงร็อคอีกหลายวงในเวลาต่อมา
วัฒนธรรมสองล้อกับแฟชั่น
และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอยู่คู่กับวัฒนธรรมสองล้อมาอย่างยาวนานนั่นคือเรื่องของแฟชั่น โดยแจ็คเก็ตหนังสำหรับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นแท้จริงแล้วมีมาตั้งแต่ปี 1928 แล้ว เพียงแต่การที่ Marlon Brando สวมแจ็คเก็ตหนังเข้าฉากเรื่อง The Wild One เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของแฟชั่นในโลกของมอเตอร์ไซค์และยังคงเป็นภาพจำของเหล่าไบเกอร์ในชุดเสื้อแจ็คเก็ตหนังกับกางเกงยีนส์ที่ส่งต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ และแน่นอนว่าแฟชั่นไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นไบเกอร์เท่านั้นที่จะสวมเสื้อแจ็คเก็ตหนังกับกางเกงยีนส์ได้เช่นกัน แม้จะเป็นภาพลักษณ์ของไบเกอร์ก็ตาม โดยเหล่าคนดังที่เน้นย้ำความเป็นแฟชั่นให้กับเสื้อแจ็คเก็ตก็ได้แก่ James Dean, Bruce Springsteen, วง Ramones หรือ Michael Jackson กับแจ็คเก็ตหนังสีแดงในเพลง Thriller รวมถึงเหล่าแฟชั่นดีไซเนอร์อย่าง Yves Saint Laurent, Stefano Pilati, Gianni Versace, Claude Montana และ Jean Paul Gaultier ก็เคยได้แรงบันดาลใจจากแจ็คเก็ตหนังที่เดิมทีผลิตขึ้นสำหรับเป็นเครื่องแบบนักบินในยุคสงคราม
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าวัฒนธรรมของเหล่าไบเกอร์และรถคู่ใจจะกลืนไปกับสังคมไปกับสังคมโดยที่ผู้คนอาจจะไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะสังเกตเห็นถึงความกลมกลืนทางวัฒนธรรมเพียงแต่ยังไม่เปิดใจรับฟัง ทำความเข้าใจเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับความขัดแย้งในสังคมก็ตาม เหล่าผู้คนที่ใช้เวลาว่างแบบ ‘Ride or die’ และ ‘Live to ride, ride to live’ เหล่านี้ก็เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนในสังคมโดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตัวมาก่อนเช่นเดียวกัน
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... bookmotorcycletours.com