อีกประเด็นน่าสนใจหลังจากผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ที่เริ่มประกาศเปิดตัวไลน์อัพโมเดลใหม่มั้งรุ่นปี 2019 และ 2020 ซึ่งมีข้อมูลออกมาจากผู้ผลิตบางรายว่ามีการนำเครื่องยนต์แบบ Modular engine มาใช้ ดังนั้นมาทำความรู้จักกับ Modular engine กันเสียหน่อย โดย Modular engine เป็นเครื่องยนต์ที่ออกแบบและประกอบขึ้นด้วยชิ้นส่วนจำเพาะซึ่งสามารถใช้ชิ้นส่วนร่วมกันกับเครื่องยนต์รุ่นอื่นๆที่อยู่ในวงตระกูลเดียวกัน เหตุผลหลักๆก็เพื่อความสะดวกในการปรับเปลี่ยนให้เครื่องยนต์มีความจุหรือกำลังที่ต่างออกไปจากเดิม ซึ่งเครื่องยนต์ประเภทนี้ถูกนำมาใช้งานโดยผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายมาก่อนหน้าที่ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์จะเริ่มนำมาใช้งานกับโมเดลล่าสุดตามที่มีการประกาศออกมา
โดยเครื่องยนต์ Modular engine นี้ถูกนำเสนอให้กับ Norton Motorcycles โดยวิศวกรชาวอังกฤษ Bert Hopwood ในปี 1948 โดยใช้หลักการเดียวกับหลักสถาปัตยกรรมทั่วไปที่สามารถถอดเปลี่ยนส่วนประกอบต่างๆได้ เพื่อลดเวลาในการพัฒนาไปพร้อมเป็นการลดต้นทุนการผลิตนั่นเอง โดย Hopwood อธิบายว่า ทั้งเครื่องยนต์หนึ่งสูบ 125cc 250cc twin และ 500cc Teiple จะประกอบขึ้นโดยมีความกว้างกระบอกสูบและระยะชักเดียวกัน ทว่าคอนเซ็ปต์นี้ก็ถูกปฏิเสธไป จนเวลาผ่านไป 25 ปี Hopwood ได้นำไอเดียนี้ไปเสนอให้กับ BSA อีกครั้ง และแน่นอนว่า BSA ก็ปฏิเสธไอเดียของเขาเช่นกัน
คำถามที่เกิดขึ้นจากไอเดียของวิศวกรชาวอังกฤษคนนี้ก็คือ มันจะใช้งานได้จริงๆหรือเปล่า โดยรวมแล้วคอนเซ็ปต์ของเครื่องยนต์ Modular engine นี้ถือว่าสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายพอสมควร นั่นคือเมื่อกำหนดความกว้างกระบอกสูบและระยะชักได้แล้ว ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะปรับเปลี่ยนส่วนประกอบสำคัญบางอย่าง หรือแม้กระทั่งเพิ่มและลดจำนวนลูกสูบลงเพื่อสร้างแรงม้าของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นให้แตกต่างกันก็ทำได้
หากจะชี้จุดเด่นข้อดีของเครื่องยนต์ Modular engine ให้เห็นชัดเจนก็ให้ลองจินตนาการว่าเราคือผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์หน้าใหม่ที่ต้องการสร้างตัวเลือกที่หลากหลายให้กับนักขี่ เริ่มตั้งแต่มอเตอร์ไซค์ entry-level มอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์ สปอร์ตไบค์ ไล่ไปจนถึงมอเตอร์ไซค์เกรดไฮ-เอนด์ ซึ่งโจทย์สำคัญก็คือจะกำหนดกำลังเครื่องยนต์ของแต่ละโมเดลได้อย่างไร ซึ่งคำตอบก็คือการสร้างเครื่องยนต์แบบ one-size-fits-all ขึ้นมาเป็นเครื่องยนต์พื้นฐาน จากนั้นก็ปรับแต่งหรือเปลี่ยนแปลงความจุเครื่องยนต์เล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับมอเตอร์ไซค์แต่ละโมเดล เช่น สร้างเครื่องยนต์ 500cc ขึ้นมาเป็นเครื่องยนต์พื้นฐาน จากนั้นทำการปรับจูนให้กลายเป็นเครื่องยนต์หนึ่งสูบสำหรับมอเตอร์ไซค์ entry-level หรือแม้แต่ ใช้เครื่อง 1000cc twin ที่เหมาะกับรถครุยเซอร์เช่นเครื่อง parallel twin ก็สามารถรับแต่งให้กลายเป็นเครื่องยนต์ 1500cc ได้ด้วยการเพิ่มลูกสูบเข้าไปอีกหนึ่งลูก หรือปรับเปลี่ยนส่วนประกอบเล็กน้อยสำหรับเครื่อง V-twin และ flat twin
แม้หัวใจสำคัญของ Modular engine การแชร์พาร์ทที่เป็นองค์ประกอบภายในของเครื่องยนต์อย่าง พุชร็อด ตลับลูกปืน ลูกสูบ และแหวนลูกสูบโดยจะแสดงให้เห็นเพียงความแตกต่างของชิ้นส่วนภายนอกก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคอนเซ็ปต์ของ Modular engine จะใช้งานได้เสมอไป เพราะยังมีมอเตอร์ไซค์หลายๆโมเดลที่ยังคงต้องใช้เครื่องยนต์ที่มีองค์ประกอบเฉพาะตัวเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของแต่ละโมเดลอยู่นั่นเอง
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... motorcyclecruiser.com