จากภาพลักษณ์ที่คนทั่วไปรวมถึงนักขี่ยุคเก่าๆยังคงเชื่ออย่างสนิทใจว่ามอเตอร์ไซค์สไตล์ Bobber นั้นเหมาะสมกับชายวัยกลางคน แถมเราก็มักจะเห็นเหล่าผู้ชายหนวดงามในวัยนี้ขี่ไปไหนมาไหนกันอยู่บ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มอเตอร์ไซค์ Bobber กลับเหมาะกับนักขี่ทุกวัยกว่าที่หลายๆคนจะคาดคิด และมอเตอร์ไซค์จากสองแบรนด์ที่ถูกยกให้เป็นท็อปของ Bobber โมเดลปี 2018 นั้นก็ได้แก่ Indian Scout Bobber และ Triumph Bonneville Bobber Black
โดย Bobber ทั้งสองคันนี้ออกแบบมาเพื่อสะท้อนตัวตนของนักขี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทันสมัยหรือความพร้อมที่จะรับปรับเปลี่ยนบุคลิกของตนได้ทุกเมื่อ ตัวรถมีขนาดเล็กกว่าขนาดนิยมของมอเตอร์ไซค์ครุยเซอร์แบบ Full-sized หรือ Big Twin แต่ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าครุยเซอร์หลายโมเดลจึงไม่ต้องกังวลเรื่องของกำลังเครื่องยนต์แต่อย่างใด และด้วยกลิ่นอายของครุยเซอร์แบบดั้งเดิมที่แฝงอยู่ภายในดีไซน์ที่ทันสมัยของทั้งสองโมเดลทำให้อารมณ์ในการขี่จะต่างกันเล็กน้อย
ด้านดีไซน์ของรถ stock ทาง Bonneville Bobber Black มาพร้อมกับจุดเด่นอย่างแชสซีแบบ Tubular กับสไตล์ Hardtail ติดตั้งถังเชื้อเพลิงทรงคุ้นตาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Triumph และเบาะนั่งเดี่ยวแบบ Floating ขณะที่ Indian Scout Bobber มาพร้อมกับ cast frame ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในส่วนของน้ำหนักและความแข็งแกร่งกับสามารถรองรับ accessories เสริมหล่อได้หลากหลายกว่า
ทั้ง Bonneville Bobber Black และ Scout Bobber มีระยะ Ground clearance ที่ค่อนข้างต่ำทำให้พักเท้าครูดกับพื้นขณะเข้าโค้งค่อนข้างบ่อย แต่ด้วยฐานล้อ 59 นิ้วซึ่งแคบกว่า Scout Bobber 2.5 นิ้วทำให้ Bobber Black แบนโค้งได้มากกว่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้แสดงถึงความแตกต่างเท่าไรนัก แต่ส่วนที่สร้างความต่างได้อย่างชัดเจนก็คือยางล้อ โดย Scout Bobber ใช้ยางล้อ Kendra K761 ที่ทำให้ความสมูธในการขี่น้อยกว่า Avon Cobra ของ Bobber Black แต่จะได้อารมณ์การขี่แบบดุดันเร้าใจจาก Scout Bobber มาแทนที่ความสมูธ
ด้านเครื่องยนต์ที่แม้จะมีความต่างแตกต่างในส่วนของโครงสร้างแต่ก็มีคาแรคเตอร์ที่คล้ายคลึงกันอยู่พอสมควร นั่นคือความเป็นเครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์ของครุยเซอร์ที่ผสมกับรถสปอร์ต โดยทั้งสองคันมีกำลังเครื่องยนต์และการตอบสนองต่อคันเร่งที่น่าประทับใจอย่างมาก ด้านของ Scout Bobber ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V-Twin 1,133cc liquid-cooled นั้นมีกำลังเครื่อง 81 แรงม้าที่ 7,900 rpm ซึ่งสูงกว่า Bobber Black ที่มีเครื่องยนต์ liquid-cooled 1,200cc Parrallel Twin ที่มีกำลังเครื่องยนต์ราว 73.32 แรงม้าที่ 5,900 rpm เป็นขุมพลัง
ดิสก์เบรกหน้าคู่และคาลิเปอร์เบรก Brembo ของ Bobber Black ดูจะตอบสนองเร็วกว่าแต่ช่วงหน้าจะแข็งกว่า Scout Bobber เล็กน้อยเวลาที่มีการเบรกหนักๆ แม้ Bobber Black จะติดตั้งช่วงหน้า Showa ตัวใหม่ก็ตาม ขณะที่ดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวของ Scout Bobber จะทำงานคู่กับชุดเบรกหน้าได้ช้ากว่า Bobber Black เล็กน้อย แต่ช่วงหน้ากลับให้ความรู้สึกดีกว่าในสถานการณ์เดียวกัน ด้านสรีระของรถทั้งสองคันนั้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกัน ทั้งความสูงของเบาะนั่ง แฮนเดิลบาร์ที่ไม่ได้ยกสูงนัก ต่างกันเพียง Bobber Black นั้นเป็นมอเตอร์ไซค์แบบ Mid-control นอกจากนี้ส่วนที่แสดงถึงความแตกต่างอีกจุดหนึ่งของทั้งสองคันก็คือเบาะนั่งเดี่ยว ซึ่งเบาะนั่งของ Bobber Black เป็นแบบ Floating ที่สามารถปรับระดับได้นั่นเอง
เมื่อขี่ระยะไกล Bonneville Bobber Black จะมีอัตราการสิ้นเปลืองมากกว่าและด้วยความจุของถังเชื้อเพลิงที่เล็กกว่าทำให้ต้องแวะเติมเชื้อเพลิงบ่อยกว่า โดยรวมแล้วทั้งสองโมเดลสามารถสร้างความประทับใจให้กับนักขี่ที่ไม่เคยสัมผัสกับมอเตอร์ไซค์ Bobber ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วยเครื่องยนต์ แชสซี และระบบกันสะเทือนของรถนั้นให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตผสมอยู่ในมอเตอร์ไซค์สไตล์นี้ได้อย่างลงตัว เหมาะกับนักขี่ทุกวัย หากจะบอกจุดเด่นที่ต่างกันของทั้งสองคันก็คือ Triumph Bonneville Bobber Black มีการขี่ที่สมูธกว่า แต่ Indian Scout Bobber จะให้อารมณ์การขี่ที่ดุดันเร้าใจกว่าและอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยกว่า
------ เรียบเรียงโดย HD-Playground ที่มา... cycleworld.com