หลังจากที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ Naked และ Adventure ออกมาเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ล่าสุด Harley-Davidson ปลุกความร้อนแรงอีกครั้งกับการเผยรายชื่อโมเดลไฮไลท์ของไลน์อัพใหม่ พร้อมอัพเดตเทคโนโลยีที่จะใช้กับเหล่าโมเดลปี 2019
Boom!Box ระบบ Infotainment ใหม่ที่ทาง Harley-Davidson ได้ทำการอัพเดตสำหรับโมเดลปี2019 โดยระบบ Infotainment เดิมที่มีทั้งทัชสกรีนและพอร์ทเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพานี้ได้นำมาใช้งานกับโมเดลทัวริ่งครั้งแรกตั้งแต่ปี 2013 นี้ ซึ่งระบบให้ที่นำมาใช้เป็นการอัพเดตระบบทั้งภายในและภายนอกเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม ทั้งหน้าจอ TFT ที่ใช้กระจก Gorillas Glass เป็นวัสดุและยังออกแบบมาเพื่อให้สะท้อนแสงแดดได้น้อยที่สุด ทั้งยังสามารถใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศหรือแม้กระทั่งขณะยังสวมถุงมืออยู่
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มความเร็วในการทำงานให้กับระบบ และตั้งค่า UX/UI ใหม่เพื่อให้มีการตอบสนองต่อการสัมผัส รูด หรือลากนิ้วได้แม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังมีการเพิ่มระบบสั่งการด้วยเสียงสำหรับโหมดเนวิเกชั่น ซึ่งโหมดนำทางนี้ยังมีฟังก์ชั่นจดจำเสียง “one box search” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักขี่ ทั้งนี้ระบบนำทาง GTS navigation สามารถเปิดใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่นของ Harley-Davidson ได้ทั้งระบบ Android และ โดยที่นักขี่สามารถอัพโหลดเส้นทางที่คุ้นเคยและ/หรือเลือกค้นหาเส้นทางใหม่ได้
ในส่วนของไลน์อัพโมเดลปี 2019 ทาง Harley-Davidson ยังมีการนำระบบ Reflex Linked Break System มาใช้งานโดยระบบนี้จะประกอบไปด้วยระบบที่แตกต่างกัน 4 รูปแบบ เริ่มจากระบบ Traction control ซึ่งเป็นระบบใหม่สำหรับตระกูล touring และ trike ต่อด้วยระบบ Drag-Torque Slip Control System (DCSC) เป็นระบบที่คอยตรวจสอบความหน่วงของล้อหลัง และปรับการส่งกำลังของเครื่องยนต์ให้เข้ากับความเร็วของล้อหลัง และยังนำระบบเบรก ABS เข้ามามีบทบาทกับระบบใหม่ที่นำเสนอนี้ด้วย สุดท้ายก็คือ Linked brake ซึ่งเมื่อรวมทั้งสี่ระบบเข้าด้วยกันก็จะเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเร่งเครื่องหรือหยุดได้อย่างมั่นในยิ่งกว่าเดิม
สำหรับโมเดล Tri Glide Ultra และ Freewheeler นั้นจะได้รับการอัพเกรดช่วงหน้าและกันสะเทือนท้ายใหม่ โดยช่วงหน้าใหม่นี้จะติดตั้งเทคโนโลยี Dual bending valve เอาไว้ภายในเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความสมูธขณะขี่ ส่วนกันสะเทือนหลังจะมีการนำ Single-knob preload มาใช้งานควบคู่ไปด้วย ด้านเครื่องยนต์ของไลน์อัพโมเดลปี 2019 ทั้ง touring และ trike จะมีเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ที่มีสมรรถนะสูงกว่า Milwaukee-Eight 107 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์เป็นขุมพลัง มาดูที่ไฮไลท์ในไลน์อัพปี 2019 นั้นคงจะหนีไม่พ้นบรรดาเดล CVO ซึ่ง Harley-Davidson ก็ได้เผยโฉมโมเดล CVO ปี 2019 ที่ได้รับการอัพเกรดทั้งสไตล์ เทคโนโลยี และสมรรถนะออกมาด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่
2019 CVO Limited มอเตอร์ไซค์ที่ติดตั้งวงล้อ Tomahawk ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว และล้อหลัง 18 นิ้ว และชุดแต่ง Kahuna Collection โดยจะมีให้ชุดสีเลือกด้วยกันทั้งหมด 3 ชุดสีได้แก่ สีน้ำตาลทอง Auburn Sunglo/Rich Bourbon/Black Hole มาพร้อมวงล้อ Tomahawk wheels แบบ Contrast Chrome สีแดง Red Pepper/Wineberry/Magnetic Grey กับวงล้อ Tomahawk wheels แบบ Contrast Anodize และสีเทา Magnetic Grey Fade ที่ใช้วงล้อ Tomahawk wheels แบบ Contrast Anodize
2019 CVO Street Glide จะสวมชุดแต่ง Kahuna Collection เหมือนกับ CVO Limited แต่จะใช้วงล้อแบบ Talon Wheels ซึ่งจะมีชุดสีให้เลือก 3 ชุดสีเช่นเดียวกัน ได้แก่สีเทา Charred Steel / Lining Silver กับวงล้อ Talon Wheels แบบ Contrast Chrome ตามด้วยสีแดงทูโทน Wineberry/Black Forest วงล้อเป็น Talon Wheels แบบ Contrast Anodize และชุดสีแดงเข้ม Black Forest พร้อมวงล้อ Talon Wheels แบบ Contrast Anodize
2019 CVO Road Glide โมเดลที่ติดตั้งทั้งวงล้อ บอดี้ และชุดสีเฉพาะของตัวเอง ทั้ง สปอยเลอร์หน้าแบบ Fang Front อินเทค Screamin’ Eagle Heavy Breather ล้อหน้าขนาด 21 นิ้ว และล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ส่วนชุดสีก็มี 3 ชุดสีเป็นตัวเลือก สีเทา Charred Steel/Lightning Silver/Black Hole มาพร้อมกับวงล้อ Knockout wheels แบบ Contrast Chrome และครอบท่อไอเสียแบบ Bright หรือสีแดง Red Pepper/Magnetic Grey/Black Hole กับวงล้อ Knockout wheels แบบ Contrast Anodize และสี Mako Shark Fade ติดตั้งวงล้อ Knockout wheels แบบ Contrast Anodize และสีน้ำเงิน Mako Shark Fade ติดตั้งวงล้อ Knockout wheels แบบ Contrast Anodize
โดยโมเดล CVO ทุกรุ่นจะติดตั้ง Boom!Box ระบบ GTS infotainment System เช่นเดียวกับตระกูล touring และ trikes รุ่นปี 2019 แต่จะติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า โดยโมเดล CVO รุ่นปี 2019 จะได้เครื่องยนต์สมรรถนะสูง Milwaukee-Eight 117 มาเป็นขุมพลังขับเคลื่อนพร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 125 ฟุตปอนด์ โดยจะสังเกตได้ว่า Milwaukee-Eight 117 ที่ติดตั้งให้กับโมเดล 2019 CVO นั้นจะมีเอกลักษณ์ที่เป็นแถบคาดสีแดงที่เครื่องยนต์ rocker boxes
อีกหนึ่งเซอร์ไฟรส์สำหรับความเคลื่อนไหวครั้งนี้คงจะหนีไม่พ้นพาวเวอร์ครุยเซอร์โมเดลล่าสุด 2019 FXDR 114 ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถ Drag สนามแข่ง ติดตั้งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 ที่ Harley-Davidson คำควนแรงบิดสูงสุดของ FXDR 114 เอาไว้เป็นตัวเลข 119 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3,500 rpm และด้วยเทคโนโลยี สมรรถนะ รวมถึงการปรับแต่งที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ทำให้ไลน์อัพพิกัด Heavyweight ของ Harley-Davidson กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ทั้งระบบ Traction control และ IMU ที่จะถูกนำมาใช้งานก็ถือเป็นสิ่งที่นักขี่ยุคใหม่มองหารวมถึงจะช่วยเติมเต็มให้โมเดล Heavyweight ของ Harley-Davidson ได้อย่างลงตัว
------
เรียบเรียงโดย HD-Playground
ที่มา... cycleworld.com