![]() |
วันนี้แดดเปรี้ยงแต่เช้า แต่อากาศยังเย็นอยู่เหมือนเดิม ![]() |
บริเวณรอบ ๆ บังกะโลที่พักใน Kaprun ครับ มีแต่โรงแรมและบังกะโล เต็มไปหมด หน้าหนาวที่นี่ก็เป็นแหล่งเล่นสกีด้วยเหมือนกัน ![]() |
รถเบนซ์ที่เคยใช้ในกองทัพ ถูกเอามาบูรณะใหม่ ให้มาลากตู้รถพ่วงไว้สำหรับท่องเที่ยว เท่จริง ๆ ![]() |
บ้านนี้พวกเราเหมากันทั้งหลัง ผมนอนอยู่ห้องใต้หลังคาชั้นบนสุด มีหน้าต่างแบบ Moon Roof ให้ด้วย แต่เสียดายหลังคาเตี้ยไปหน่อย ลุกขึ้นมาหัวโขกอยู่หลายรอบ ![]() |
ลานจอดรถมีแทรกเตอร์ยี่ห้อ Porsche สีแดงจอดอยู่ด้วย เกิดมาเพิ่งจะเคยเห็น... ![]() |
บรรดาผู้สูงวัยชาวออสเตรีย ขับรถเปิดประทุนมาพักผ่อนตากอากาศกันที่นี่ค่อนข้างเยอะครับ Alfa, Benz, MG แบบโบราณ มากันแบบเป็นกลุ่มเหมือนกัน เห็นแล้วอยากได้บ้างแฮะ ![]() |
เมื่อวานเพิ่งได้จับ HD หลังจากขี่ Ducati ซะตลอดสัปดาห์ที่แล้วครับ ถ้าได้เอาเจ้าแก่ Black Springer ไปขี่ในยุโรปด้วยกันคงเยี่ยมกว่านี้อีก ![]() |
ออกเดินทางกันต่อครับ แดดดี อากาศเย็นประมาณ 16 องศา มุ่งหน้าออกจาก Kaprun ![]() |
เขตนี้เป็นเมืองตากอากาศ วิวทิวทัศน์สวย ๆ ตลอดเส้นทาง ![]() |
บนยอดเขาจะมีหิมะคลุมอยู่ตลอด ถ้ามาตอนหน้าหนาวคงจะสวยไปอีกแบบครับ ![]() ![]() |
ตอนแรกว่าจะนอนพักซักหน่อย ถ้าไม่ได้ออกมาทริปวันนี้คงเสียดายแย่ครับ เพราะจัดว่าเป็น Highlight ของการเดินทางเลย ![]() ![]() |
เริ่มวิ่งเข้าถนนมุ่งหน้าลงใต้ เป็นเส้นทางวิ่งผ่าเข้าไปในหุบเขาครับ ![]()
![]()
![]()
![]()
![]() ![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]()
![]() |
กินขนมกับกาแฟเรียบร้อย ก็เดินทางกันต่อ ![]() จุดหมายถัดไปคือเมือง Lienz ![]() เมือง Lienz อยู่ตอนใต้สุดของ Austria ห่างจาก Italy แค่ 25 กิโลเมตร เมืองนี้อากาศจะอุ่นกว่าเมืองทางตอนเหนือครับ ![]()
![]()
![]() ร้านขายของที่ระลึกเพียบ แต่แปลกตรงที่หา Sim สำหรับ Iphone 4 ไม่ได้เลย ตั้งแต่ Salzburg จนมาถึง Lienz ไม่มีแบบ Prepaid ขายเลยครับ ถ้าใครคิดว่าจะเปิดโทรศัพท์ Roaming แค่รับ Text หรือ BB ตัวอักษรในออสเตรีย คงต้องคิดหนักหน่อยครับ เพราะที่นี่ค่า Data Roaming กับผู้ให้บริการในบ้านเรา แพงมากกกกกก.. ผมเปิดแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ในช่วงที่อยู่ Austria โดนเข้าไปเกือบ 4 พัน ![]() แก๊งค์เด็ก ๆ ปั่นจักรยานมาล้มอยู่ด้านหน้า ตอนแรกนิ่งไปเลย พอทุกคนตกใจลุกขึ้นไปดู ปรากฏว่าลุกขึ้นมาปั่นต่อซะเฉย อย่างนี้เขาเรียกว่าเรียกร้องความสนใจ ![]() ![]() เดินเล่น นั่งพัก กันพอสมควร ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ รถของลุง Arno คือ K1200LT มีระบบยกขาตั้งคู่อัตโนมัติด้วยนะครับ เหมาะสำหรับผู้สูงวัยจริง ๆ ![]() เห็นพื้นที่จอดรถของ Polizei แล้วนึกถึงพี่เปรียว ตม. ที่เยอรมัน เขาไม่ได้รามือง่าย ๆ นะครับ ไกด์ทัวร์ของเรา รายงานมาว่า ตั้งแต่ โรงแรม Henry ใน Erding จนมาถึงโรงแรมใน Kaprun คุณตำมะหนวดเยอรมัน โทรมาเช็คที่โรงแรมตลอดว่า มีกะเหรี่ยง 3 คน เข้าพักจริงหรือเปล่า คราวนี้พอเดินทางผ่านตำรวจที่ไร ก็จะโดนแหย่ว่า “They are watching you” รู้สึกเหมือนเป็นบุคคลสำคัญเลยแฮะ ![]() ออกจาก Lienz วิ่งขึ้นเหนือสู่ Grossglockner ตอนแรกไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่าเขาจะพาไปดู Glacier กัน ไปก็ไป... ![]()
![]() ![]() แล้วก็ไต่ขึ้นเทือกเขา ![]() ![]() มาถึงด่านเก็บเงินค่าผ่านทางครับ ![]() ราคาค่าเข้า รถมอเตอร์ไซค์คันละประมาณ 800 บาท มันมีอะไรดีหว่า... ![]() ขึ้นมาจนถึงจุดปิกนิกอาหารเที่ยงของวันนี้ ![]() Marko มาเตรียมอาหารรอไว้เรียบร้อยแล้ว ![]() อาหารแบบฝรั่งเหมือนเดิม แต่วันนี้มีชีสกินแกล้มกับองุ่นเขียวสุดอร่อยเพิ่มมาด้วย อ้วน ๆ ทั้งน้าน.... ![]() หลังจากกินอิ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงช่วงขี่แบบอิสระขึ้นยอดเขา ระยะทางจากจุดปิกนิกขึ้นไปอีกประมาณ 5 กิโลครับ เลยแวะถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ![]() วันถัดไปจะมีการแข่งขันปั่นจักรยานขึ้นภูเขากัน วันนี้เลยมีนักปั่นน่องเหล็กปั่นขึ้นเขาซ้อมกำลังกันเพียบ ![]() ใกล้ถึงยอดเขา เริ่มมีหิมะคลุมตามข้างทาง มองเหนือขึ้นไปด้านบน จะเห็นถนนตัดคดเคี้ยวไปมา อยู่ตรงจุดนั้นแล้วมองขึ้นไปมันยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ ![]() อุโมงค์แบบนี้มีให้เห็นเป็นช่วง ๆ เอาไว้กันหิมะถล่มด้วยมั้งครับ ![]() และแล้วปลายทางก็มาสิ้นสุดที่ต้นกำเนิดธาร Glacier เทือกเขา Alps และทะเลสาบทั้งหมด เกิดขึ้นมาจากแผ่นน้ำแข็งขนาดมหึมา ไหลลงไปกดทับพื้นดินด้านล่างในยุค Ice Age ทำให้เกิดหุบเขา และร่องลึกจนเป็นทะเลสาบ ในปัจจุบันครับ ![]() ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้า Black Multi Strada ที่พาขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของเทือกเขา Alps ในเขตนี้ ถ้าขี่ HD ขึ้นมา คงหืดขึ้นคอเหมือนกัน เพราะมีแต่โค้งหักศอกเพียบ ![]() เสื้อหนังแค่ตัวเดียวเอาไม่ค่อยอยู่กับอากาศบนนี้ครับ เหมือนเดินอยู่ในห้องเย็น อุณหภูมิประมาณ 2 องศา ในระหว่างนั้น พี่เปรียวกับพี่จุ๊บก็ไปพบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เช่ารถตู้ขึ้นมาเที่ยวกัน พอพี่ ๆ เขารู้ว่า ขี่มอเตอร์ไซค์กันขึ้นมา ก็ถึงกับงงกันยกใหญ่ คงเห็นแต่พวกฝรั่งเจ้าถึ่นขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยว ไม่เคยเห็นคนไทยขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวบ้างมั้งครับ ![]() เดินเล่น ถ่ายรูปกันพอให้มือสั่น ก่อนกลับโบกมือร่ำลากับกลุ่มพี่ ๆ ชาวไทยที่ขึ้นมาเที่ยว แล้วเราก็ขี่ข้ามมาอีกเทือกเขานึงใกล้ ๆ กันครับ ![]() ทางฝั่งนี้ยิ่งหนาวมหากาฬขึ้นไปอีก หิมะคลุมหนาเป็นฟุต แถมบางช่วงเริ่มละลายกลายเห็นน้ำเต็มพื้นถนน, ต้อง ขี่กันแบบระมัดระวัง กลัวกลิ้งไปแปะอยู่ในหิมะครับ ตอนนี้เริ่มคิดถึงเสื้อหนาวอีกตัวที่ทิ้งไว้ในกระเป๋า รู้งี้ใส่เผื่อไว้ก่อนดีกว่า ![]() ถ้ามีแดดก็ยังพอได้ไออุ่นจากแดดมาช่วยบ้าง แต่พอเมฆบังปุ๊ป แถมขี่ผ่าลมหนาว ยิ่งเย็นเข้าไปอีก ![]() แล้วก็ลุยกันจนมาถึงยอดเขาอีกด้านของ Grossglockner อากาศเย็นจนขนาดเพิ่งฉี่มาจากยอดเขาเมื่อกี้ ก็ยังต้องเข้าห้องน้ำกันอีกรอบ คิดดูว่าแก๊งค์จักรยานที่เห็นเค้าอึดขนาดไหนครับ ทั้งหนาว ทั้งสูง แต่ใส่ชุดกันบางเฉียบ คงร้อนเวลาปั่น แต่หนาวเวลาหยุดมั้ง ![]()
แวะพักกันก่อนที่จะมุดอุโมงค์ข้ามไปอีกฝั่ง แปลกมากครับ ทางฝั่งนี้อากาศจะขมุกขมัว หนาวจัด แต่พอมุดไปอีกด้านนึง แดดออก ฝนตก อากาศอุ่นขึ้น ประหลาดดี ![]() Hochtor ยอดเขาที่มีถนนตัดผ่านที่สูงที่สุดในเขตนี้ที่ระดับ 2504 เมตร มีสติ๊กเกอร์เจ้าถิ่นแปะเต็มไปหมด HDP เลยต้องขอแปะบ้าง เพื่อเป็นตัวแทนไบเกอร์ชาวไทยว่าเคยมาเยือนแล้วเหมือนกัน ![]() ป้ายชี้ไป Grossglockner อีก 16 กิโล จากจุดนี้ เลยแปะ Bangkok Motorbike Festival ไปอีก 1 ใบ ![]() ขาลงเรากลับอีกด้านของภูเขาครับ มุดอุโมงค์ Hochtor จะมาเจอกับอากาศที่แตกต่างกับอีกฝั่งโดยสิ้นเชิง ![]() เส้นนี้จัดว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเท่าที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์กันมาเลยครับ ถนนเรียบเนียน โค้งหักศอก โค้งวนกลับ โค้งกว้าง โค้งแคบ มีให้ลองทุกแบบ แต่หันไปด้านข้างทางจะเป็นหุบเขาลึกถ้าเล่นโค้งเพลิน พลัดตกลงไป คงจะได้อยู่เฝ้าที่นี่แน่นอนครับ ![]() มองลงไปด้านล่างจะเห็นถนนตัดเลาะไปตามไหล่เขาครับ คิดว่าบนนี้หิมะคงมีอยู่ตลอดปีแน่ ๆ ![]() พี่จุ๊บทนไม่ไหว ต้องจอดรถแวะถ่ายรูปกันยกใหญ่ |