HD-Playground 6th Anniversary Charity & Party

HD-Playground ขอเชิญชวนเพื่อนๆ พี่ๆ นักขี่ทุกท่าน ร่วมงานสังสรรค์ประจำปีของเว็บไซต์ ในงาน
"HD-Playground 6th Anniversary Charity & Party"
ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ของเว็บไซต์สำหรับผู้ที่หลงใหลในรถ Harley-Davidson ด้วยกันครับ
ปีนี้งานยังคงจัด ณ สถานที่เดิมของปีที่แล้วคือ Retro Live Café ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์
ในวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป




พร้อมด้วยคอนเสิร์ตจากขาร็อครุ่นใหญ่ที่ทำให้หลายๆ คนรู้จัก HD Fat Boy ในอดีตอย่างพี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ที่จะมาร่วมเขย่าความมันส์ไปพร้อมกับพี่ปู และสมาชิกวง Black Head เต็มวง โดยพี่ๆ ทั้งสองท่าน ยังร่วมบริจาคโดยการเล่นคอนเสิร์ตโดยไม่คิดค่าตัว และให้ส่วนลดพิเศษสำหรับวงแบคอัพอีกด้วย สำหรับราคาบัตรคอนเสิร์ตยังคงเป็นราคาเดิมคือ 300 บาท ซึ่งท่านจะได้รับเครื่องดื่ม เบียร์... และเหล้า... เสิร์ฟตลอดงานหรือจนกว่าของจะหมดเหมือนเช่นทุกปี



พี่อ๊อฟ - พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง


วง Black Head


สำหรับการจัดงานในปีนี้ยังคงแนวคิดเดิมคือ งานสังสรรค์เพื่อจัดหาทุนไปมอบให้กับโรงเรียน หรือเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสและต้องการความช่วยเหลือ โดยในปีนี้จะมีการปรับเปลี่ยนจากการนำเงินที่ได้รับบริจาคไปมอบให้กับ โรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง มาเป็นการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือในระยะยาวครับ

ปีนี้ HDP ได้มีการสำรวจโรงเรียนและหน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือหลายแห่ง ซึ่งขณะนี้สรุปได้ว่าจะนำเงินกองทุนที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือหน่วยงาน ต่างๆ ดังนี้

1. โรงเรียน วิชาวดี อ.ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
โรงเรียน แห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยดำริของคุณพ่อของ ดร.คมกฤษณ์ ผู้เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก และยังเป็นที่ปรึกษาการจัดงาน Midway ของชาวพิษณุโลกด้วยครับ เมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน คุณตา (คุณพ่อของ ดร.) ได้มอบที่ดินและอาคารโรงแรม ใน อ.ปากน้ำโพ ซึ่งขณะนั้นตัวอำเภอเป็นชุมชนค้าขายที่เจริญกว่าฝั่ง นครสวรรค์ในปัจจุบันมาก เพื่อที่จะนำมาทำเป็นโรงเรียน ซึ่งมีแนวคิดตั้งแต่แรกเริ่มคือ ให้การศึกษาเด็กโดยไม่มีการเก็บค่าเล่าเรียน และยังคงยึดถือแนวคิดอันนี้มาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งคุณตายังสนับสนุนค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียนทุกเดือน ทำให้บรรดาครูที่สอนหนังสือเด็กๆ มีรายได้เพียงพอที่จะจุนเจือครอบครัวและทุ่มเทให้กับเด็กๆที่มาจากชุมชน ต่างๆ แต่เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว คุณตาได้เสียชีวิตลง ทำให้เงินสนับสนุนรายเดือนที่เคยได้รับขาดหายไป มีเพียงเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ที่ให้กับโรงเรียนเพียงแค่ 30% ของจำนวนนักเรียน ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ คุณครูบุปผาชาติ ที่หลายๆ คนรู้จักกันในนาม คุณครูห่อหมก ซึ่งเป็นครูใหญ่ของโรงเรียน และเป็นคุณครูที่เริ่มต้นก่อตั้งโรงเรียนมาพร้อมกับคุณตา ต้องพยายามหารายได้เพื่อนำมาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียน โดยการทำห่อหมกออกขายในตลาด ซึ่งมีรายได้เพียงวันละ 200-300 บาทเท่านั้น

ในวันที่ HDP เข้าไปสำรวจและพูดคุยกับคุณครูใหญ่ ซึ่งต่อสู้มาตลอด 40 กว่าปีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงเรียน จะเห็นได้ว่า สิ่งปลูกสร้าง อาคารเรียนมีให้ใช้งานได้ จากการบริจาคของผู้ใจบุญหลายท่าน แต่สิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้ต้องการคือ การช่วยเหลือในระยะยาว จากค่าใช้จ่ายของครูผู้สอนซึ่งมีอยู่ 8 ท่าน ที่คอยดูแลเด็กนักเรียน 120 คน รวมไปถึงเด็กจรจัดและยากจนกว่า 10 คนที่อาศัยอยู่กับคุณครูห่อหมกภายในโรงเรียน ซึ่งเด็กเหล่านี้บางคน พอฟังประวัติจากคุณครูแล้วรู้สึกเศร้าใจไปกับโชคชะตา เด็กหญิงอายุเพียง 5 ขวบที่เดินอยู่หากินอยู่ริมถนน ในวันแรกที่ได้ถูกนำมาอุปการะที่นี่ ยังไม่รู้จักห้องน้ำเลยด้วยซ้ำ เธอโตมาจากข้างถนนที่จะขับถ่ายเรี่ยราด และซ้ำร้ายกว่านั้น เด็กบางคนถูกข่มขืนตั้งแต่ยังจำความอะไรไม่ได้

เมื่อสอบถามถึงค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ลองคำนวณดูคร่าวๆ จากจำนวนครูภายในโรงเรียน น่าจะไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เมื่อเสนอตัวเลขว่า จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 3 หมื่นบาทต่อเดือน เพียงพอหรือไม่ คำตอบที่ได้รับกลับเป็นว่า มากเกินไป ขอเพียงแค่ หมื่นกว่าบาทก็พอแล้ว ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือเบื้องต้นก็เพื่อทำให้คุณครูที่อุทิศตัวเพื่อสอน เด็กๆ เหล่านี้ ได้มีรายได้เพียงพอจุนเจือครอบครัว และมีกำลังใจ-เวลาที่จะทุ่มเทให้กับเด็กๆ เหล่านี้ต่อไป ส่วนแผนการช่วยเหลือในระยะยาว คงจะทำให้โรงเรียนแห่งนี้สร้างรายได้เลี้ยงดูตัวเองได้ต่อไปในอนาคต จากการทำการเกษตรพื้นฐาน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอก ซึ่งจะนำเสนอโครงการมาให้ทราบต่อไปในอนาคต

 

2. โรงเรียนดรุณราษฎร์วิทยา อ.แม่สาย จ.เชียงราย
โรงเรียน ของนายตาม Heaven’s Devils ที่มีนักเรียนอยู่กว่า 1 พันคน ซึ่งปีที่ผ่านมาเงินบริจาคได้มีการระบุถึงสถานที่ที่จะช่วยเหลือไปแล้ว จึงไม่ได้จัดสรรไปยังโรงเรียนแห่งนี้ แต่ในปีนี้นายตามได้ให้คุณครูผู้ดูแลทุนการศึกษาสำหรับเด็กยากจน ส่งเอกสารขอรับความช่วยเหลือโดยมีรายละเอียดของเด็กๆ อยู่ 5 คน ซึ่งแต่ละคนก็ประสบปัญหาครอบครัวที่แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กเหล่านี้มีเหมือนกันคือ ความตั้งใจดีที่จะเพิ่มเติมความรู้ เพื่อนำไปเป็นทุนในการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคต การช่วยเหลือเด็กเหล่านี้จะทำในรูปแบบของทุนการศึกษา เป็นค่าเทอม, ค่าเสื้อผ้า และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ของเด็กแต่ละคน ที่จะส่งเสียให้เรียนจนจบในช่วงการศึกษานั้นๆ ซึ่งมีในช่วงของเด็กเล็กที่จะส่งให้เรียนจนจบชั้น ประถม และเด็กโตที่จะส่งให้เรียนจนจบชั้นมัธยมปลาย

 

3. โรงเรียน ดอนบอสโก จ.กรุงเทพฯ
เงิน บริจาคของทุกท่านซึ่งเป็นผู้ที่หลงใหลในยานพาหนะสองล้อ จะถูกนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนอาชีวะในสายช่างยนต์ ของโรงเรียนอาชีวะที่มีอายุถึง 65 ปีแห่งนี้ จากแนวความคิดในเบื้องต้นของพี่ไบ๋ แห่ง Dirt Shop ในวันที่ HDP เข้าไปขอยืมใช้สถานที่ในการทำบทสัมภาษณ์ พี่ไบ๋เสนอไอเดียว่า วงการมอเตอร์ไซค์ของพวกเราในปัจจุบัน เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีรถมอเตอร์ไซค์ออกสู่ถนนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่บุคคลากรที่อยู่ในสายช่าง ที่จะคอยซ่อมบำรุงรถของพวกเรานั้น หาได้ยากขึ้นทุกที ช่างซ่อมรถที่มีอยู่ในปัจจุบันมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ส่วนช่างใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในวงการนั้น ก็หาไม่ได้ง่ายๆ ในครั้งแรกสำหรับแนวความคิดอันนี้คือการจะหาโรงเรียนสายช่างที่ไหน ที่ดูแลเด็กได้ดี และเด็กๆ เหล่านั้นจะไม่เสี่ยงต่อการทะเลาะวิวาทกับสถาบันอื่น เมื่อถามนายก้อง เจ้าของโรงเรียนเกริกวิทยาลัย ก็ได้คำแนะนำว่า โรงเรียนดอนบอสโก เป็นโรงเรียนที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีความเสี่ยงต่ำต่อปัญหาเหล่านั้น ดังนั้น HDP จึงเข้าไปขอรับคำแนะนำเกี่ยวกับแนวความคิดที่จะให้ทุนการศึกษาแก่เด็กช่าง กับคุณพ่อบาทหลวง พรจิต พูลวิทยกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนดอนบอสโก ซึ่งท่านได้ให้ความกรุณาพาชมการเรียนการสอนของโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งมีการเปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้น ปวช. ถึง ปวส. เด็กที่เข้าเรียนที่นี่ จะถูกคัดกรองจากข้อแรกคือ ต้องเป็นเด็กยากจน และต้องการทำงานในสายช่างด้วยความสมัครใจเท่านั้น ในแผนกช่างยนต์ ปวช. ของที่นี่ การสอนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ภาคทฤษฏี 1 สัปดาห์ และภาคปฏิบัติ 1 สัปดาห์ สลับกันไปตลอดหลักสูตร ซึ่งภาคปฏิบัติ จะสอนจากการทำงานจริงๆ ซึ่งโรงเรียนได้เปิดอู่ซ่อมรถเพื่อให้บริการกับบุคคลทั่วไป โดยเด็กๆจะลงมือเป็นผู้ซ่อมรถด้วยตัวเองจากการกำกับดูแลของอาจารย์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ รุ่นพี่ที่สำเร็จการศึกษาไปแล้ว ทำให้เด็กเหล่านี้เรียนรู้จากการทำงานจริง ควบคู่ไปกับทฤษฏีจากตำราเรียน

ในเบื้องต้น กองทุนที่จัดตั้งขึ้นจะถูกนำไปมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่มีความ ประพฤติดี, ขยันเล่าเรียน และครอบครัวเดือนร้อน โดยคุณครูประจำชั้นจะเป็นผู้ทำรายงานขอทุนส่งเข้ามา และในขั้นต่อไปจะเริ่มมีการแนะแนวอาชีพให้กับเด็กเหล่านี้ถึงการเป็นช่าง ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ ดูความสนใจของเด็กว่าต้องการที่จะเข้ามาสู่วงการนี้มากน้อยขนาดไหน หลังจากนั้นจะเริ่มฝากหลักสูตรการซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่เข้าไปสู่แผนก ช่างยนต์ พร้อมกับจัดส่งเด็กนักเรียนที่ต้องการฝึกงานไปยังสถานประกอบการต่างๆ เพื่อที่จะเรียนรู้การทำงานจากสถานที่จริง
 

สำหรับ กิจกรรมที่จะร่วมสนุกและยังได้บุญจากการบริจาคนั้น ในปีนี้ยังคงมีการชิงรางวัล Sportster Charity Lotto ที่ได้รับการสนับสนุนจากเสี่ยโต T-Cycle ที่บริจาครถ Sportster 883L ปี 2008 โดยมีการจัดทำ Lotto จำนวน 6000 หมายเลข หมายเลขละ 100 บาท ซึ่งเงินบริจาคของทุกท่านที่ร่วมกันซื้อ Lotto จะถูกนำเข้าสมทบกับกองทุนโดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย

สำหรับสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ที่ร่วมสนับสนุนงานเหมือนดังเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา จะถูกนำเข้าสู่การประมูลสินค้า ซึ่งในปีนี้จะมีระบบการประมูลสินค้าออนไลน์ นอกเหนือจากการประมูลสินค้าในวันงานอีกด้วยครับ การประมูลสินค้าออนไลน์จะเริ่มประมูลกันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 โดยจะมีรายละเอียดของสินค้าที่นำมาประมูลและวันที่ที่จะเริ่มประมูลแจ้งมา ให้ทราบกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับท่านที่ต้องการบริจาคสินค้าเพื่อนำมาร่วมประมูล สามารถติดต่อขอบริจาคได้ที่ 02-320-0033 ซึ่งจะต้องนำส่งสินค้ามายัง HD-Playground ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2554 เพื่อนำไปถ่ายรูปและประกาศให้ทราบต่อไปครับ

มาร่วมสังสรรค์พร้อมกับร่วมจัดตั้งกองทุนให้ความช่วยเหลือด้วยกันนะครับ นอกจากการพบปะพูดคุย พบเจอเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ติดต่อกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์มาตลอด 1 ปีแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต คือการให้การศึกษาและสร้างช่องทางทำมาหากินให้กับเด็กๆ ที่จะโตขึ้นเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศและเป็นโอกาสที่พวกเขาจะมาร่วมพัฒนาวง การมอเตอร์ไซค์ของพวกเรากันต่อไปครับ