A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
Nicky's Handle Bar
By HDP PR
DATE: 2011.02.24
VIEW: 2112
POST: 0

“ถ้ามาถึงภูเก็ตแล้วไม่มานอน ไม่ต้องมานะ” เสียงหยอกมาตามคลื่นโทรศัพท์จากเกาะภูเก็ตของพี่นิกกี้ เมื่อรู้ว่า HDP จะต้องเดินทางสำรวจสถานที่สำหรับงาน Motorbike ในปี 2011 ซึ่งวางแผนการเดินทางแบบไม่ได้นึกถึงน้ำในหูจะเปลี่ยนระดับ ตลอด 3 วันรวด ใน 3 ภาคของประเทศไทย จุดหมายแรกคือ เกาะภูเก็ต หลังจากรบกวนพี่จุ๊บ Jubbu ช่วยโทรขออนุญาตพี่นิกกี้ เข้าไปทำคอลัมน์และสัมภาษณ์ ซักพัก พี่จุ๊บแจ้งกลับมาว่า “โทรไปได้เลยครับ พี่นิกกี้ รอโทรศัพท์อยู่” แม้จะไม่เคยพบหรือรู้จักพี่นิกกี้ มาก่อน แต่ พี่นิกกี้ ก็ให้ความเป็นกันเองตั้งแต่คุยโทรศัพท์กันครั้งแรก

ช่วงบ่ายวันพุธ เมื่อ HDP เสร็จสิ้นภาระกิจสำรวจสถานที่ ณ Jungceylon ห้างใหญ่บนหาดป่าตองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมร้าน Nicky’s Handlebar ซึ่งด้านหน้าเป็นบาร์-ร้านอาหาร อันเต็มไปด้วยของที่ระลึกจากไบค์เกอร์ทั่วโลก ที่แวะเวียนมานั่งดื่ม, พูดคุย, พักแรม และร่วมเดินทางกับเพื่อนๆชาวมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน ร้านพี่นิกกี้ หาง่ายครับ อยู่ติดกับไปรษณีย์ป่าตองพอดิบพอดี บริการต่างๆของร้าน Nicky’s Handlebar เรียกได้ว่าครบวงจรเลยทีเดียว ตั้งแต่ บาร์และร้านอาหาร, บริการซ่อมรถ HD, บริการเช่ารถและนำเที่ยวด้วย HD, โรงแรมสุดเท่ห์ที่สร้างมาเพื่อไบค์เกอร์โดยเฉพาะ รวมไปถึงของสะสมเจ๋งๆเพียบ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ของสุภาพบุรุษที่ชื่อว่า พี่นิกกี้

 

 

HDP: พี่ิ๊นิกกี้ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Nicky: รถมอเตอร์ไซค์น่าจะตั้งแต่ 13-14 ปี เริ่ม 13 ขโมยรถพี่ชายไปขี่

HDP: ตอนที่เริ่มขี่นี่ เป็นรถอะไรครับ
Nicky: รถวิบาก DT 100 แล้วก็ ฮอนด้า 70 สองคัน

HDP: ตอนนั้นก็คือขี่ในภูเก็ต
Nicky: นิกกี้เกิดพังงา แต่มาอยู่ภูเก็ต เข้ามาภูเก็ต 25 ปีแล้ว

HDP: ตอนที่อยู่พังงาก็คือ มีรถ ก็คือเป็นรถที่แบบขี่ลุยกัน
Nicky: ขี่ในหมู่บ้านอะไรอย่างเนี้ มันขำๆ พอมาอยู่ภูเก็ตก็ใช้ตัว AR100 ที่ว่าเป็นฮอนด้าตัว 750 CB 7 แรงครึ่ง รู้สึกว่าคันนั้นขายไป 25 สตางค์ ตอนกลับไปเยอรมันน้องเค้าบอกว่าอยากจะได้ ก็เลยบอกเค้าว่า ขายให้ 25 ตังค์ ถ้ามี 25 ตังค์เอาไปเลย ดูเหมือนมันจะมี 11 บาทกับ 25 สตางค์ พูดแล้วก็ต้องให้เค้าไป

HDP: นานแล้วสิครับ
Nicky: ปี 89

HDP: ตอนยุคนั้น 89 ก็ตก 21 ปี ตอนนั้นพี่นิกกี้ยังไม่ได้มาอยู่ภูเก็ต
Nicky: ยังไม่อยู่ ตอนนั้นอยู่ป่าตอง พี่อยู่ป่าตองตั้งแต่ 25 ปีที่แล้ว มาอยู่ป่าตอง แล้วไปอยู่กะตะ - กะรน แล้วก็กลับไปอยู่เยอรมัน แล้วก็กลับมานี่ แล้วก็เจ๊งด้วยในเมือง

HDP: ไปอยู่ในเมืองด้วยเหรอครับ
Nicky: เปิดในเมืองแล้วก็เจ๊ง ตอนนั้นเปิดเป็นผับนี่แหละ ภูเก็ตไรด์เดอร์คลับ

HDP: เป็นคลับมอไซค์
Nicky: ก็เป็นคลับมอเตอร์ไซค์นี่แหละ ตอนนั้นมีอู๊ดดี้ กับนิกกี้ ก็ปิดในเมืองมาเปิดที่นี่ เมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้ว

HDP: เริ่มมาขับฮาร์เล่ย์ตอนไหนครับ
Nicky: ฮาร์เล่ย์ตอนปี 1990 คันแรกก็เป็น 7 แรง เครื่อง WLA 7 แรงเครื่องตัวไซด์วาล์ว ได้มาตอนนั้นนี่สภาพโอเค แต่ขี่แล้วน้ำมันมันท่วม ขี่แล้วจะไม่ไหว เข็นกันบ่อยมาก แต่ยังอยากจะเก็บมันไว้ ก็เลยเก็บไว้เนี่ย ยังเก็บไว้ทุกวันนี้ ไม่ขายคันนี้งไงก็ไม่ขาย

HDP: แต่ยุคนั้นเนี่ย ถ้าเกิดว่าได้ไซด์วาล์วมา แล้วสภาพดี ขับได้นี่ก็
Nicky: คันนี้ขับได้ แต่กรุงเทพฯ ไม่น่าจะถึง เพราะคนขี่มันจะหมดแรงซะก่อน แต่ขี่ได้ ทุกวันนี่ขี่ได้ ตอนนั้นได้มาปุ๊บ ก็คือคันนี้เป็นคันแรก แล้วหลังจากนั้น 2 เดือนให้หลังก็เป็น 883 อีก 3 เดือนให้หลังก็เป็น 1200 แล้วก็ถัดมาอีกประมาณ 6 เดือนก็เป็น Fat Boy ก็เริ่มจาก 4 คันนี้

HDP: แล้วพอมาเปิดร้านที่นี่เสร็จปุ๊บ แล้วตอนนั้นพี่นิกกี้ก็เริ่มทำมอเตอร์ไซค์เป็นเช่าด้วยมั้ยครับ
Nicky: ตอนนั้น นิ๊กกี้ทำเป็นเช่า เช่านี่น้อยนะ ทำเป็นทัวร์มากกว่า พาเขาไปขี่ด้วยกัน ขี่เล่นๆ ชมวิวทิวทัศน์ เรารับผิดชอบถึงตรงนั้น ตั้งแต่รถ, น้ำมัน, ประกัน, รถกระบะ, รถสแปร์ ทีมงานทั้งหมดเราดูแลได้ แล้วก็อีกอย่างนึง ขี่สบายสบาย 70-80 แล้วก็ขี่กลับ 300 กว่ากิโลวันหนึ่ง

HDP: ทำทัวร์นี่ก็คือเริ่มมานานแล้ว พอๆ กับทำผับ
Nicky: 9 ปีแล้วครับ หลังจากเปิดร้านปีนึงก็เริ่มทำ ตอนนี้ก็เกือบจะ 10 ปีละ

HDP: ก็คือเริ่มมาจากลูกค้าที่มานั่งในผับว่าอยากขี่
Nicky: อยากขี่รถ แล้วก็พากันไปขี่ เริ่มจาก 4 คัน เต็มที่ก็ไม่เกิน 13 คัน เพราะมากกว่านั้นมันดูแลไม่ได้

 

HDP: แล้วอย่างเวลาเราไปต่างประเทศ ถ้าเจอร้านมอเตอร์ไซค์แบบเป็นผับมอเตอร์ไซค์อะไรแบบนี้ ก็พาลอยากขี่เลยมั้ยครับ
Nicky: มันก็เป็นอารมณ์เหมือนกันทุกคนแหละครับ มันเป็นเรื่องปกติ เราไปบ้านเพื่อน เราอยากจะขี่ เพื่อนก็พาไป ถ้าหาเองบางครั้งมันก็เป็นอีกมุมไง ถ้ามีคนที่อยู่สถานที่ตรงนั้นเนี่ยที่เค้าพาไปเนี่ย ที่สวยๆ ทั้งนั้น ไม่ต้องงม ขี่เองบางทีหาไม่เจอ แต่มอเตอร์ไซค์ดีอย่างนึง มีเพื่อนได้เยอะ มีเพื่อนได้ทั่วโลก บางจุดก็ไม่ต้องเช่าด้วย มีแต่คนเซ็ตรถให้ อันนี้รถ you นะ จะขี่คันไหนออกไปเที่ยวกัน เพราะงั้นก็ได้กลับมาอะไรที่มันดีๆ เพื่อนดีๆ ก็เยอะ

HDP: แล้วงานในจังหวัดอื่นๆ พี่นิกกี้ไปบ้างมั้ยครับ
Nicky: ช่วงนี้ไม่ได้ไปเลยครับ ช่วง 2 ปีนี้ไม่ได้ไปไหนเลย เพราะว่าอยากจะทำโรงแรมให้เสร็จด้วย แล้วตอนนี้มันก็เริ่มจะลงตัวละ ข้างหลังเสร็จก็ทำข้างหน้าอีกนิดนึง ทีนี้ก็จะได้เที่ยวกับเขาบ้าง

HDP: สมัยก่อน พี่นิกกี้ ก็มีขึ้นไปแถบ เชียงใหม่
Nicky: สิงคโปร์ มาเลย์ อินโด ไปหมด

HDP: อินโดนี่คือไปทางบาหลี
Nicky: ขับจากซูราบายาไปบาหลี นั่นชุดแรกที่ไป ฟิลิปปินส์ก็ไป ฟิลิปปินส์ไป 2 ปี

HDP: เวลาไปคือเราขี่ลงไปถึงสิงคโปร์ แล้วข้ามไปอินโด หรือว่า ship จากที่นี่ครับ
Nicky: ตอนนั้นออกรถจากอินโด ออกรถจากซูราบายาเขาเซ็ตรถให้ แต่ถ้าสิงคโปร์นี่ขี่กันไป มาเลย์นี่ขี่มาเลยใกล้นิดเดียวเอง แป๊บเดียวก็ถึงครับ 8 ชั่วโมงกว่าๆ


HDP: อย่างนี้แปลว่าเวลาเราขี่ไปมาเลย์ แล้วก็คนมาเลย์ก็ขี่มาบ้านเรา อย่างภูเก็ตมากันเยอะมั้ยครับ
Nicky: ภูเก็ต มาเลย์มาเยอะ ไม่เกี่ยวกับงานไบค์วีคนะ ส่วนตัวแล้วเขาก็มาเที่ยว อาทิตย์นึงเค้าก็มาพักผ่อน เพราะว่า 1. ใกล้ 2. ความสะดวกมันมีเยอะไง แล้วเขาขี่เข้ามา เขาก็แฮปปี้ สองสามวันเขาก็กลับ

HDP: แล้วเวลาพี่นิกกี้ออกทริป มีที่ไหนที่ประทับใจครับ
Nicky: น่าจะเป็นเชียงใหม่นะครับ แต่เชียงใหม่พวกเราจะขี่กันอ้อมจากอีสานไปเหนือ แล้วก็กลับอีกเส้นนึง สัก 7,000 กิโล

HDP: 7,000 กิโลเลย
Nicky: มีความสุขมาก 2 อาทิตย์ ทีนี้ 2 ปีเหลังนี่ยไม่ได้ไปไหนเลย ทำงานอย่างเดียว

HDP: แต่ช่วงก่อนที่จะมาทำโรงแรมนี่ก็คือไปตลอด
Nicky: ไปครับ ผมก็ไปร่วมงานกับเขาตลอด

 

HDP: เริ่มมาขับฮาร์เล่ย์ตอนไหนครับ
Nicky: ฮาร์เล่ย์ตอนปี 1990 คันแรกก็เป็น 7 แรง เครื่อง WLA 7 แรงเครื่องตัวไซด์วาล์ว ได้มาตอนนั้นนี่สภาพโอเค แต่ขี่แล้วน้ำมันมันท่วม ขี่แล้วจะไม่ไหว เข็นกลับ

HDP: ถ้าเป็นทริปที่พี่นิกกี้อยากไปในอนาคตละครับ ที่คิดว่ายังไงก็ต้องไปสักรอบละกัน
Nicky: น่าจะเป็นอเมริกา เป็นจุดนึงที่อยากจะไป ถ้าอยู่ในจุดของมอเตอร์ไซค์นั่นคือสุดยอดของงาน ที่สมควรจะสัมผัสนะครับ สักครั้งนึงในชีวิต

HDP: ถ้าไปอเมริกานี่ พวกเพื่อนๆ ที่แบบมาเที่ยวที่ร้านก็มีใช่มั้ยครับ
Nicky: มีเยอะมาก แล้วก็มีคนที่อยู่ใกล้ก็มีเพื่อนอยู่หลายคน บางคนก็อยู่ห่างจากงานไม่เกินร้อยเมตรก็มี มีคอนโดมีบ้านเขาก็บอกมาพักที่นี่พี่ หารถ เดี๋ยวเขาหาให้ ก็เป็นเรื่องดี เราอยู่ตรงนี้บางทีก็มีเพื่อนแยะ มันก็มีความแปลกดีอย่าง มาจากกรุงเทพฯ บินมาเลย รถขี่ยั้วเยี้ยไปหมด ยกเว้นหน้า High season มันต้องใช้รถ แต่ถ้าช่วงนี้ใครลงมา พาเพื่อนดีๆ ให้พี่นิ๊กกี้ ลงมาภูเก็ตกันนะ จะขอบคุณด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยแบตเตอร์รี่มันได้ชาร์ต

HDP: อย่างนี้ถ้าเพื่อนๆ มาจากต่างจังหวัด แล้วอยากมาพักหรือมาขี่ท่องเที่ยว ที่นี่ก็มีบริการให้ใช่มั้ยครับ
Nicky: ครับ ที่นี่มีที่นอนให้เช่า บางทีเก็บค่าห้อง ค่าห้องเก็บเต็ม แต่ค่ารถให้ขี่ฟรี ก็แล้วแต่คน เหมือนเพื่อน เขามาจากอุบลฯ อันนี้เขาอยู่ในกลุ่ม ก็ค่าห้องเก็บเต็ม แต่รถเอาไปขี่เมื่อไรก็ได้ เพราะเขาอยู่ในกลุ่มด้วยกัน แต่บางทีเราก็ อ๊ะ! รถมาไกลๆ เราก็อยากให้เขาสัมผัสอะไรสวยๆ ภูเก็ต วิวทะเล อากาศ รถก็ไม่ค่อยติด เมืองก็สวยๆ

HDP: แล้วสำหรับเครื่องยนต์ของฮาร์เล่ย์ละครับ พี่นิกกี้ชอบเครื่องยนต์ตัวไหน
Nicky: จริงๆ ชอบ Evo ถ้าขี่ได้อารมณ์ ผมว่าเป็น Evo มากกว่า Pan ผมก็มี Shovel head ผมก็มี อันนี้จะเก็บ ไว้งานเป็นบางครั้งออกไปสั้นๆ แต่ถ้าขี่ให้สบายก็ Twin cam นี่แหละใช่ แต่ถ้าได้อารมณ์ก็ Evo

 

HDP: ขี่แล้วได้อารมณ์ด้วย ไปได้จริงงด้วย Shovel นี่ก็แก่ไปหน่อย
Nicky: ช่วงสั้นๆ ได้ แต่ถ้ายาวๆ เหนื่อย ขี่แล้วมันจะเหนื่อย ความรู้สึกห่างกันนิดนึง สำหรับ Evo กับ Shovel แต่ Evo นี่ได้ทั้งขับขี่แล้วอะไรที่มันปลอดภัยกว่า จริงๆ แล้ว Evo เป็นรถที่ใช้งานปกติได้ทุกวัน แล้วก็อารมณ์มันได้กว่า

HDP: แล้วพวกรถปีใหม่ๆ อย่าง TC 96 หล่ะครับ มีเก็บไว้บ้างไหม
Nicky: มีอยู่ 6-7 คันแล้วครับ แต่ว่าไม่ค่อยชอบ อืม อารมณ์มัน... มันร้อนเนาะ ขี่แล้วไม่ค่อยไหว

 


HDP: หัวฉีดล่าสุด ผมเอาตัว Ultra ปี 06 มาขี่ ร้อนมาก
Nicky: ร้อนใช่มั้ยครับ แต่ถ้าขี่ทางไกลโอเค รถ Ultra ขี่ในเมืองไม่ดี พวกรถ Touring ขี่ในเมืองที่รถแคบๆ รถแออัดอย่างในกรุงเทพนี่ ไข่สุก แต่ว่าถ้า Road King ยัง ลำบากคนขับ เต็มกลืน แต่ถ้าขี่ทางไกลดี ผมเคยขอ Guinness Book ยืนจากสิงคโปร์มาภูเก็ตกับ Ultra ยืนขับนะ เขาตอบกลับมาว่า มีคนจีนทำไปแล้ว 5 กิโลกว่า

HDP: ยืนขับเหรอครับ
Nicky: ยืนจากสิงคโปร์ขับมา มันส์ดีนะ น้ำมันเต็มถัง แต่ตอนนี้แก่ละ ทำไม่ได้ละ 43 ไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง

HDP: แล้วที่ขี่มาพี่นิกกี้เคยเจออุบัติเหตุบ้างมั้ยครับ
Nicky: ล้มเองแบบไม่คิด คือง่ายๆ บางทีลืมเอาสแตนด์ลง ไปกับรถอะไรอย่างนี้ แต่ถ้าชนโครม ไม่เคยเกิดอะ ดีแล้วครับ บางทีเห็นเขา เราก็รู้สึก แบบวิญญาณเราอยู่ในมอเตอร์ไซค์ไง มันต้องขี่ต่อ ยังไงๆ มันต้องไปต่อ เราต้องมีความเชื่อมั่นตัวเอง ใช่มั้ยครับ

HDP: อยากจะเลิก ก็เลิกไม่ได้
Nicky: มันเลิกไม่ได้ครับ อะไรจะเกิด มันก็เกิดอยู่ดีนั่นแหละ จะเกิดด้วยมอเตอร์ไซค์ จะเกิดด้วยรถอะไรก็ตาม มันมีสิทธิ์เกิดขึ้น

HDP: พยายามจำกัดความเร็ว
Nicky: ของ พี่นิกกี้ ตอนนี้ความเร็วไม่ค่อยจำกัด อยากจะจำกัดอารมณ์มากกว่า แล้วบางที่นี่ขี่ออกไป กลับมา โอ้ยยยย ทำได้ไงวะ คือแบบหลุดไปไง ถ้ามันบิดได้เท่าไรก็ มันต้องให้จบ ต้องให้หมด พอหมดเนี่ยบางทีมันก็ไม่ได้หมดแค่ทางตรงไง บางทีมันกลับมาแล้วก็คิดนิดนึง จะขี่ก็ดูความปลอดภัยนิดนึง เพราะบนถนนเราไม่ได้ขี่คนเดียวใช่มั้ย มองอะไรไกลๆ อะไรที่มันเบาๆ หน่อยก็เบา ผมก็เริ่มเบาละ


HDP: เพราะมันแบบ มันเกิดอะไรแว๊บเดียว จบเลย
Nicky: ของผมคงไม่ต้องเก็บมั้ง โกยอย่างเดียว

HDP: พี่นิกกี้ ก็ยังขี่พวกดูคาติ ด้วย
Nicky: ดูคาติ 2 ปีแล้วยังไม่ค่อยได้ไปไหนเลย ต้องกลับมาสักที่นึงจะคาที่รึเปล่าวะ อันนั้นเร็วเกิน เราใส่ทุกอย่างเข้าไปด้วย ยิ่งมีครอบครัวมีลูกด้วย ต้องคิดถึงลูกนิดนึง แต่ก่อนก็บ้าบิดเกิน

 

HDP: แล้วถ้าเกิดให้พี่นิกกี้ลองมองในแวดวงมอเตอร์ไซค์ปัจจุบันละครับ ว่าในอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันบ้างไหม
Nicky: อดีตอบอุ่นกันดี หนึ่งกลุ่มของคนที่ขี่รถใหญ่ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้อง Harley รถใหญ่ทั้งหมด เขาเคารพนับถือ มีอะไรที่เชื่อมเยอะมาก ดีมาก สมัยนี้เด็กวัยรุ่นก็ รุ่นใหม่ๆ เค้าก็มีการแข่งขัน ในการทำงานเยอะขึ้น แล้วก็ผู้ใหญ่ก็เริ่มถอยยออกมานิดนึง เพราะว่าเด็กรุ่นใหม่ก็ดี ผู้ใหญ่ก็ดี แต่อยากให้ทุกคนรักกัน เพราะงั้น ไปฝั่งไหน ทิศไหนก็แล้วแต่ มีพี่มีน้องช่วยเหลือกัน ตรงนี้อยากให้มี ที่ร้านนิกกี้ภูเก็ต ต้อนรับเสมอทุกๆ คน อย่างน้อยก็มีเบียร์กิน ที่นี่ไม่มีน้ำดื่ม นอกจากเบียร์กับเหล้า

HDP: พี่นิกกี้อยากฝากอะไรถึงเพื่อนๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์บ้างไหมครับ
Nicky: ก็ขอฝากว่า ขอให้ทุกคนขี่รถอย่างปลอดภัย แล้วก็มีความสุขกับการขี่รถ ที่นี่ก็เป็นบ้านหลังนึงที่ยินดีต้อนรับทุกๆ คนที่แวะเข้ามาครับ

 

พี่นิกกี้ พาเดินชมร้านตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงด้านหลังที่เป็นโรงแรม ซึ่งพี่นิกกี้ ลงทุนลงแรง ไปเต็มๆตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้จากรายละเอียดแทบทุกส่วนภายในห้องพัก ที่จะมีกลิ่นไอของสิ่งที่พี่นิกกี้ชอบ ทั้งรถมอเตอร์ไซค์ HD หรือรถสปอร์ตจากแดนมักกะโรนีอย่าง Ferrari ส่วนประกอบภายในห้องบางชิ้น สร้างมาเฉพาะห้องนั้นๆ อย่างผนังห้องที่ใช้แบบหล่อปูนไม่ซ้ำกันซักห้องเดียว มือจับลิ้นชักที่สร้างใหม่ด้วยแบบป้ายครบรอบ 100 ปีของ Harley หรือดีไซน์เจ๋งๆอย่างที่อาบน้ำบริเวณสระว่ายน้ำ ที่เอายาง Dunlop HD ลายคุ้นเคยมาวางซ้อนกันจนกลายเป็น Tower ฝักบัว พร้อมก้านเปิดปิดน้ำที่ทำมาจาก Handlebar รายะเอียดต่างๆของสถานที่แห่งนี้ เกิดขึ้นมาจากความหลงใหลในสิ่งที่ชอบอย่างแท้จริง ถ้าเป็นนักออกแบบทั่วๆไป คงจะไม่สามารถให้รายละเอียดกับสิ่งของต่างๆได้ถึงขนาดนี้ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความชอบส่วนตัวล้วนๆ จนกลายมาเป็นแรงผลักดันให้พี่นิกกี้ สร้างโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งน่าจะมีแห่งเดียวในโลก

น่าเสียดายที่แผนการเดินทางในวันถัดไปจะต้องบินไป จ.ขอนแก่น เลยไม่ได้พักตามคำชวนของพี่นิกกี้ แต่ก่อนจะจากกัน พี่นิกกี้ ได้มอบของที่ระลึกเอาไว้ให้สำหรับ HD-Playground เป็นไม้สัก แกะสลักเป็นรูปโลโก้งาน Phuket Bike Week 2002 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ พี่นิกกี้ ได้ร่วมทำงานไบค์วีคอันยิ่งใหญ่ของภาคใต้ ก่อนที่จะทุ่มเทเวลาให้กับร้านและโรงแรม หากเพื่อนๆ พี่ๆ ท่านใดมีโอกาสได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต ร้าน Nicky’s Handlebar เป็นคำตอบสุดท้ายของชาวไบค์เกอร์ครับ


Share   Like
Comments