A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
HDP SWEET RIDE 3
By HDP PR3
DATE: 2015.02.17
VIEW: 2145
POST: 0

 

|| SWEET RIDE ||

ยังคงอยู่ในช่วงเวลาที่แสนหวานกับ Sweet Ride คู่ที่สาม คุณลี และ คุณนิว กับไลฟ์สไตล์สุดเท่ที่แฝงความกุ๊กกิ๊ก ความห่วงใยจนใครหลายๆคนต้องอิจฉา

 

 

 

 

 

 

 

 

ชื่อ : ชัยสิทธิ์ ทินกร (คุณลี)

ชื่อ : ธัญนัทน์ ทินกร (คุณนิว)

รถในครอบครอง : Haley-Davidson Fatboy, Haley-Davidson Road Glide

สถานะ :  แต่งงาน 4 ปี

 

เป็นแฟนกันได้ยังไง

ลี : เจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหารครับ ผมเล่นดนตรีอยู่ แล้วนิวก็ทำงานอยู่ที่นั่น พอเห็นครั้งแรกก็ปิ๊งเลย  

นิว : นิวปิ๊งพี่ลีก่อน เจอกันชอบกันแล้วก็เป็นแฟนกันเลย (หัวเราะ)

 



 

 

 

ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกันมากี่ปีแล้ว

 ลี : ตอนเป็นแฟนกันใหม่ๆ ยังไม่ได้ขี่จริงจังครับ เพิ่งเริ่มขี่จริงๆ ตอนคบกันปีที่ 4  เริ่มซื้อมอเตอร์ไซค์คันแรก เป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ สกายเวฟสีขาว คันนั้นขี่ได้ปีนึง คันที่ 2 ก็ซื้อ FatBoy แล้วก็ขี่คันนี้ได้ 2 ปีแล้ว ตอนแรกออกคันแรกมา เหมือนรถพี่โจ้ โจอี้ บอย ของพี่เค้าสีน้ำเงิน แต่ของเราสีขาว ซื้อมาวันแรกโดนด่าไม่ให้เข้าบ้านเลย นิวเขาไม่ชอบแนวนั้น  แต่ตอนนั้นเราก็เพิ่งเริ่มใหม่ๆ ก็แบบว่าขี้เกียจ คือเราขี่รถมีคลัชมาเยอะแล้วน่ะ เราก็เลยไม่อยากขี่รถมีคลัช อยากขี่สกู๊ตเตอร์สบายๆ ซึ่งจริงๆ มันก็มีประโยชน์นะ ใส่ของใส่อะไรได้เยอะ ใต้เบาะมันก็ใส่อะไรได้เยอะ แต่นิวเขาชอบแบบทรงชอปเปอร์มากกว่า คือคนนี้เขาชอบมากกว่าเราอีก สุดท้ายก็เลยต้องเปลี่ยน  (หัวเราะ)  

นิว : ตอนแรกเขาเอาคันสีขาวมา นิวบอกให้เขาเอาไปคืนเลยนะ 

ลี : มาเริ่มชอบแนวชอปเปอร์จริงๆ ก็เพราะพี่โจ้ กับเดอะแก๊งค์นี่แหละ วันนั้นขี่ตามแก๊งค์เขาไม่ทัน วันรุ่งขึ้นขายเลย ซื้อใหม่เลย (หัวเราะ) คนนี้เขาก็เชียร์อยู่แล้ว คันแรกแอบซื้อ คันที่สองซื้อง่ายมาก

นิว : นิวว่าผู้ชายที่ขี่ฮาร์เล่ย์เท่ดี

ลี : มันได้สังคม ได้เพื่อน แล้วสำหรับเราคือมิตรภาพที่เงินซื้อไม่ได้ พอบางทีเราไปในร้านค้าต่างๆ คนที่เขาขายของในเว็บไซต์ต่างๆ เขาไม่ใช่แค่พ่อค้าที่มาเอากำไรเรา ขายของเสร็จก็คุยกันเรื่องมอเตอร์ไซค์ โน่นนี่นั่น แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน บางทีก็เป็นการเกื้อหนุนทางธุรกิจที่เราทำด้วยเหมือนกัน มันเลยเหมือนได้อะไรมากกว่าขี่มอเตอร์ไซค์ มันไม่ใช่ขี่รถสองล้อเที่ยวไปวันๆ 


 

 


 

 

ความประทับใจระหว่างทริป

นิว :  เวลาออกทริปไกลๆ เขาจะคอยตีขาเราตลอด เขากลัวเราจะหลับ แล้วก็จะคอยถามว่าเมื่อยมั้ยอะไรมั้ย จะหันมาดูเราตลอด อย่างมีเนิน หรือหลุมก็จะคอยสะกิด ขยับขาให้รู้สึกว่าข้างหน้ามีเนิน ถ้าเขาเบรกไม่ทันเราก็จะได้ยืนยกก้นนิดหนึ่งจะได้ไม่กระแทก โอเคเลย

ลี : เขาไม่ค่อยบ่นจู้จี้จุกจิก  ลุยพอสมควร ถามว่ามีเมื่อยมั้ย มันก็ต้องมีเมื่อยบ้างแหละ แวะปั๊มก็มีบ่นบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรมาก ก่อนออกทริปเขาก็จะคอยดูแลเราตั้งแต่เรื่องเสื้อผ้าให้ปลอดภัย ถามเรื่องน้ำมันถามทุกอย่าง คอยถามคอยเตือนตลอด

นิว  : บอกเขาไปเลยว่านิวเป็นผู้หญิงอึด (หัวเราะ) ปีแรกไม่มีพนักพิงนะคะ

ลี : พอใส่พนักพิงก็ไม่กอดเอวเลย พิงอย่างเดียวเลย เล่นโทรศัพท์ ถ่ายเซลฟี่ ไม่น่าเลย น่าจะเป็นเหมือนเดิม (ยิ้ม) 

 

 

ทริปประทับใจ

ลี : ก็คงเป็นเชียงใหม่ เป็นทริปแรกในชีวิต ไปกับพี่ลี่ (HDP) ทริป 7 วัน เราขี่ไปคนเดียว 5 วัน นิวบินตามมาขี่ด้วยกันวันที่ 6  ก็เลยไปขี่เล่นแถวเชียงใหม่ เช้าวันที่ 7 ก็กลับ ตอนขากลับจริงๆจะชิปรถกลับจะนั่งเครื่องบินกลับ คุยกันไปคุยกันมาก็กลายเป็นอยากขี่กลับกัน ก็เลยโอเคเลย ตั๋วเครื่องบินที่จองไว้ก็แคนเซิลทิ้งไป  ซัดยาวจากเชียงใหม่ 700 กิโล ถึงกรุงเทพ แวะประมาณ  4 ปั๊ม

นิว : ก็ประทับใจทริปแรกค่ะ ไม่มีที่พิงหลังด้วยนะ

ลี :ทริปแรกนิวคงยังไม่ประทับใจมั้ง ทรมานอยู่ (ยิ้ม)

ลี : อีกทริปที่ประทับใจจริงๆ ก็คือทริปกับพี่เปิ้ล (HDP) โอ้ (มาริโอ้ เมาเรอร์) แล้วก็เจ็ท (ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช) อันนั้นคือนิวนั่งซ้อนไปซ้อนกลับเลย  แล้วมีพนักพิงด้วย เขาเคยแล้วไงในครั้งแรก พอครั้งที่ 2 ก็คงเริ่มชา (หัวเราะ) เลยไม่ทรมานมาก  ทริปนี้มีผู้หญิงคนเดียวเลย ตอนนั้นไปสะเมิง หนาวมากประมาณ 18-19 องศา มันหนาวมือมากกว่า หมวกกันน็อกมันยังทำให้หัวไม่เย็นมาก แต่มือนี่ ขนาดมีถุงมือก็ยังสั่น จอดกินข้าวปั๊มแรกต้องเอามือไปอังเครื่องเลย ผม เจ็ท โอ้ นี่มือแข็งกันหมด พี่เปิ้ลกับหมอหลุยส์ขี่     อินเดียนสบายมาก เพราะมันมีฮีตเตอร์ที่คันเร่ง แล้วก็ที่เบาะ  ก็เลยอุ่นก้น แต่เราเนี่ยดิบๆ เลย คันต่อไปเราก็ว่าจะไปอินเดียนแล้ว คันที่ 2 อยากได้เป็นทัวริ่งหน้ากาก แต่นิวเขาไม่ชอบหน้ากาก แต่ผมจะขายคันนี้แหละ ถ้าไม่ขายก็ซื้อใหม่เลย คันนี้จอดแล้วคนก็ชมเยอะ สวย แต่งมาเยอะเขาเลยไม่ให้เราขาย คันนี้ทำที่นี่ (Life & Kustom)  มีรูปก่อนแต่งกับหลังแต่งด้วย 


 

 

 


 

 

 

 

 

ความถี่ในการออกทริป 

ลี : ทริปไปค้างจริงๆ ปีละครั้ง ส่วนใหญ่ทริปไปเช้าเย็นกลับ เพราะบางทีงานเรายุ่งด้วยแหละ ก็กะว่าจะหาเวลาขี่กับพี่เจ็ทท์ ขี่วันอาทิตย์ตอนเช้าไปที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมาก ไปกลับได้ พวกเขาใหญ่ หัวหิน  

 

 

 

 


 


 

 

ฝากถึงคู่ที่อยากขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกัน

ลี : จริงๆแล้วคือคุยกันก่อนไม่ใช่ว่าผู้ชายจะเอาแต่ใจจะให้แฟนซ้อนไปด้วยกันเลย แฟนกันมันก็ต้องคุยกันก่อน เค้าชอบมั้ย เราชอบอะไร เค้าชอบอะไร ต้องดูแลเอาใจใส่กัน อย่างคนขี่ก็จะไม่สามารถที่จะคอนโทรล ไม่สามารถเอามือออกจากแฮนด์ได้ คนซ้อนก็จะช่วยในเรื่องแบบว่าให้สัญญาณมือแทนคนที่ขี่ได้ ถ้าเกิดคนที่ขี่เป็นคู่ที่ดีก็จะเป็นแบบนี้คนซ้อนสามารถให้สัญญาณมืออะไรต่างๆ นานา ดูแลเราได้ เราจะได้ไม่ต้องคอยปล่อยมือออกจากแฮนด์ นิวเขาก็จะคอยทำแบบนี้ให้เหมือนกัน เราก็ขี่ได้อุ่นใจกว่า 

 

 

 

 

นิว : เอาเรื่องการแต่งตัวของคนซ้อนก่อนละกันค่ะ อยากแนะนำให้เน้นเรื่องความปลอดภัยควรใส่บูท ใส่กางเกงยีนส์  เสื้อแจ็คเก็ตสำคัญมาก ถุงมือ แว่นกันแดดสำคัญหมดเลย ตอนแรกนิวไม่ได้ใส่ ลมตีแรงๆ นี่เอาเรื่องนะคะ แต่ที่สำคัญอีกอย่างก็คือถึงเราจะซ้อนมอเตอร์ไซค์เราก็ต้องสวยนะ ต้องดูแลตัวเอง เสื้อผ้าหน้าผมพอเปิดหมวกออกมาก็ต้องสวยเลยทันที (หัวเราะ) และสำหรับผู้หญิงที่อยากลองซ้อนอยากจะบอกว่าไม่ต้องกลัว อยากให้มั่นใจในตัวแฟนหรือคนที่ขับ เพราะว่าเขาดูแลเราอยู่แล้ว ตัวเราแค่ต้องลอง ถ้าลองแล้วจะรู้ว่าเวลาซ้อนไปกับแฟนเรานี่มันมีความสุข ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยเห็น รู้จักกับสังคมที่น่ารักเป็นครอบครัว คือตอนแรกๆ นิวยังไม่เข้าใจสัญณาณมือ พอเจอก็ตกใจ แต่พอทำได้มันก็เข้าใจ เวลายกมือขอบคุณกันทำให้เรารู้สึกเป็นครอบครัวเดียวกัน  มีความสุขค่ะ อยากให้ผู้หญิงลองนั่งหรือลองขี่ดูก็ได้ แล้วคุณจะรู้ ตอนแรกนิวชอบมอเตอร์ไซค์นะคะ แต่ว่าไม่อยากซ้อน กลัวล้ม แต่พอได้ซ้อนไปเรื่อยๆ ถึงรู้ว่ามันสนุก อีกอย่างการเป็นคนซ้อนอาจทำให้เราได้เห็นโลกกว้างกว่าคนขี่ซะอีก เพราะเราไม่ต้องห่วงมองถนนมาก อยากมองอยากดูอะไรก็ได้ดูได้เห็นทุกอย่าง หายเครียดไปเลย ลองดูค่ะ แล้วคุณจะหลงรัก 

 

 

 

 

 



     


Share   Like
Comments