A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
HEAVEN'S CUSTOM BIKE SHOP (Part 1)
By HDP PR
DATE: 2011.03.09
VIEW: 2129
POST: 0

 

 

ชื่อร้าน : HEAVEN’S CUSTOM BIKE SHOP
สถานที่ : 31/1-2 สุขุมวิท 62 พระโขนง กทม 10260
เวลาที่เปิดทำการ : จันทร์ - เสาร์ 9:30am. - 8:00pm.
Tel : 02-332-5817
E-mail : info@heavenscustom.com

ประวัติข้อมูลของร้าน
ชือ เจ้าของกิจการ
กิติพงษ์ พงษ์ศิวาภัย (พี่ต้อ)

การให้บริการและจำนวนพนักงาน
ปัจจุบันการให้บริการของทางร้านคือรับออกแบบและตกแต่ง สร้างชิ้นส่วน ทำสี
มีพนักงานจำนวน 12 คน

ในงาน Bike Week เพื่อนๆหลายท่านคงสะดุดตาและติดใจการตกแต่งรถแนว Bobber ภายในบูธของ Heaven’s Custom Bike Shop ซึ่งกำลังเป็นสไตล์ที่กำลังมาแรงจริงๆในอเมริกาและญี่ปุ่น รวมทั้งบ้านเรา
วันนี้ HDP ก็เลยถือโอกาสมานั่งคุยกับพี่ต้อ หรือ คุณ กิติพงษ์ พงษ์ศิวาภัย เจ้าของสำนักแต่ง Heaven’s Custom Bike Shop เพื่อที่เพื่อนๆอีกหลายท่านจะได้ทำความรู้จักถึงความเป็นมาของสำนักแต่งแห่งนี้กัน


ประวัติและที่มาของร้าน

  เริ่มต้นไม่ได้ทำมอไซค์หรอกครับ แต่เป็นคนชอบมอไซค์อยู่แล้ว ก็ทำกระบะมาก่อนโดยไปฝึกงานอยู่ที่อเมริกาประมาณสองปี แล้วก็ระหว่างอยู่ที่นั่นก็ยังไม่มี H-D ด้วยซ้ำ ก็พยายามดูอยู่ตลอดแล้วก็เก็บเงิน ก่อนจะกลับสัก 6 เดือนจึงได้ซื้อ ก็ได้ Sportster โดยขายรถยนต์ที่ใช้อยู่เพื่อซื้อมอไซค์และก็เอากลับมาเมืองไทยด้วย นี่ก็ผ่านมา 20 ปีแล้ว มอไซค์ที่ได้มาเป็น H-D Sportsterปี 81 1000CC Shovel ซื้อมาต้องมาทำอีกเยอะ สภาพค่อนข้างโทรม เราไม่รู้เราไม่เคยเล่นได้แค่ Harley เราก็ดีใจแล้ว พอขี่ไปจริงๆ โอ้โห.. แม่งเน่า ก็เอาไปให้ฝรั่งซ่อม พอเอาไปซ่อม มันอยู่ในร้านนะ พอเราขี่ไปหน้าร้าน มันเดินออกมาบอกว่านึกว่ายูขับแทรกเตอร์มา เสียงวาลว์มันดัง แต๊กๆๆๆ เราก็ไม่รู้นึกว่าเสียง Harley มันเป็นอย่างนี้

พอทำเสร็จก็เอากลับเมืองไทยด้วย เอากลับมาขี่ได้สักสองปีจึงเปิดร้านนี้ ทีแรกร้านชื่อ Race go off road ทำอยู่ได้ประมาณ 6 ปี ช่วงประมาณปีหลังสุดเนี่ยก็เปลี่ยนรถมาเป็น FAT BOY ก็ขี่ทุกวัน ขี่ไปแต่งไป และเจอคนนู้นคนนี้ก็เห็นว่าเราแต่งแบบแปลกๆ เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครแต่งแบบแปลกๆ ก็เลยมีคนเอา H-D มาให้เราแต่งบ้าง ไอ้เราทำรถกระบะไปทำไปทำมาชักเบื่อ และก็มีงานมอไซค์มีมาให้ทำเรื่อยๆ ก็เลยเลิกทำกระบะไปเลยมาทำมอไซค์แทน ก็ทำแบบรายได้ไม่พอใช้พูดง่ายๆ เพราะว่าตลาดไม่กว้างบางทีคนเค้าซื้ออะไหล่มาเองเอามาให้เราใส่ให้ เราก็ทำให้ แต่รายได้นี่พูดตรงๆสู้ทำกระบะไม่ได้เลย แต่ด้วยความชอบและสบายใจก็เลยทำ



พอมีเงินก็เอาไปแต่งรถตัวเองอีกแต่งแบบเพี้ยนไมใช่ FAT BOY ไปเลย พอคนเค้าเห็นเราก็เริ่มมีชื่อว่าแต่งไม่เหมือนใคร ก็ทำไปเรื่อยๆ เพื่อนก็เอามาให้ทำอีกคราวนี้ชักเยอะ ก็เลยเริ่มสั่งของมาขาย แรกๆก็ให้เค้าหิ้วเข้ามาให้ไม่ได้สั่งเองโดยตรงใครอยากได้อะไรก็บอกก็ฝากให้เค้าหิ้วมาให้อีกที เรกก็ไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่หรอก แล้วก็หาช่างเครื่อง ช่างเคาะ มาทำ แล้วก็หาที่ทำชิ้นส่วนในเมืองไทยเพื่อจะให้ต้นทุนมันถูกลง เพื่อที่จะทำกำไรได้เพิ่มขึ้น ช่วงหลังลูกค้าเริ่มน้อยก็เลยไปทำ PUB ที่ภูเก็ตแต่ร้านมอไชค์ก็ไม่ถึงกับปิดช่วงนั้นทำผับได้สักสองปี ก็รู้สึกว่าตลาด H-D เริ่มดีขึ้นและเพื่อนๆก็ชวนให้กลับมาทำต่อเถอะ ช่วงที่หยุดก็คิดอยู่ว่าจะทำรถอะไรต่อดี พอกลับมาก็กลับมาทำคันเขียว “Bug bike” จากช่วงนั้นก็ผ่านมาประมาณ 3-4 ปีแล้วร้านก็เลยบูมขึ้นมาอีกรอบและก็มีเงินทำผับมาด้วยก็เลยเอามาทำคันนี้ต่อ หลังจากนั้นก็เริ่มมีลูกค้าหล่ะเพราะเป็นแนวใหม่เลย และก็เป็น Custom Bike เต็มตัว ชื่อร้านจาก Race go custom bike ก็เปลี่ยนมาเป็น HEAVEN’S CUSTOM BIKE SHOP


 

 

คำแนะนำมือใหม่
คำแนะนำสำหรับคนที่จะเลือก H-D เป็นคันแรก รุ่นไหนดี เลือกอย่างไรดี
สำหรับการเลือก H-D ในความคิดพี่ต้อนะ...อันแรกคือต้องดูกำลังทรัพย์เราก่อน และก็ดูรูปร่างลักษณะของตัวเอง และควรจะดูหนังสือให้เยอะ เปิดให้เยอะว่าเราชอบแบบไหน รุ่นไหนถ้าเป็นแบบเดิมๆยังเลือกง่ายแต่ถ้าจะเอาแบบแต่งเลยนี่ยากมาก



เริ่มต้น Custom Bike ของเราอย่างไรดี
ก็ดูหนังสืออีก ดูมอไซค์ที่แต่งในบ้านเรา ดูแมกกาซีนต่างประเทศเยอะๆ ดูสไตล์การแต่งตัวของเรา การฟังเพลง ถ้ามีโอกาสได้ลองก็ขอลองขี่ดู และให้เพื่อนดูว่าทรงนี้เนี่ยเหมาะกับคุณมั้ย สมมุติว่าอย่างลี่เนี่ยอยากจะขี่ สไตล์ Chopper เนี่ย....ก็ได้นะแต่ว่าถ้าเป็น Old School น่าจะดีกว่า

  

ตกแต่ง
สำนักแต่งต่างประเทศที่ชอบ
ก็มีอยู่หลายที่ที่ชอบนะ ก็มี Chopper Inc ของ Billy Lane, Chica, West Coast Chopper พี่ว่าปัจจุบันเราเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ เรานำเค้าไม่ได้หรอกมันเป็นของของเค้าหน่ะ เอาของของเค้ามาแต่ง เราก็ตามเค้าอยู่แล้ว เราจะบอกว่า “เฮ้ย เราแต่งไม่เหมือนใคร” ไม่จริงหรอกเค้าแต่งมาก่อนยังงัยเราก็ต้องเอาดีเทลเล็กๆมาใส่ในรถของเราอยู่ดีแหละ นอกจากว่าเราเห็นว่าเค้าใช้แบบนี้แต่ในเมืองไทยไม่มีแบบนี้ก็เลยต่างจากเค้า แต่ยังงัยเราก็เอาไอเดียมาจากเค้าอยู่ดีเพราะฉนั้นเราก็ยังเป็นผู้ตามเค้าอยู่ดีอย่าง Chica กับ Chopper Inc พี่ก็ชอบที่เค้าเอาของเก่ามาใช้เช่นเอาก๊อกน้ำมาทำเป็นหัวเงี้ย พี่ชอบในหัวคิดของมัน อย่างการแต่งพี่ต้อก็คุยว่าเราจะเอานี้ เอานี้มาใส่ชอบมั้ย ถ้าไม่ชอบเอาไอ้นั่นมาใส่ดีมั้ย ก็ต้องคุยให้ลูกค้าฟัง



เครื่องยนต์ที่ชอบเป็นพิเศษ
พี่ชอบ Shovel Head แต่ไม่เคยได้เป็นเจ้าของสักที เคยเข้ามาแว๊บๆแล้วก็ไปเลย ที่ชอบก็เพราะเสียงมัน ส่วน Panhead เนี่ยชอบหัวมันสวยดี ถ้าเป็นเครื่องใหม่ๆนี่ โอเคแต่ถ้าเครื่องเดิมอย่างคันนี้เนี้ยไม่ไหว คือขี่ได้แต่เดี๋ยวก็ต้องซ่อมนอกเสียจากว่าเรารื้อเปลี่ยนใหม่ทุกชิ้นและอะไหล่ถึง โอเคอยู่ยาวแต่ขี่ทางไกลเนี่ยก็สงสารมันหน่ะตามเค้าไม่ทันนอกเสียจากว่า Panhead ต้อง Panhead ทั้งแก๊ง

 







เสียงแต่ละเครื่องต่างกันมั้ย
แต่ละเครื่องเสียงจะไม่เหมือนกัน อย่าง Panhead กับ Knuckle head เนี้ยจะค่อนข้างใกล้เคียงกันเสียงจะครางๆหน่อย ทั้งลูกปืนและข้อเหวี่ยงมันจะเป็นรุ่นเก่า คือเป็นสไตล์เก่าหน่ะมันก็จะดังกว่าปกติแน่นอน มันจะไม่มีเสียงของท่อไอเสียอย่างเดียวเหมือนกับพวก Evo อย่างเงี้ย มันจะมีจากท่อไอเสียล้วนๆ กับคาร์บิว แต่ถ้าเป็น Panhead จะมีเสียงเหล็ก เสียงอะไรมาผสมอยู่ตลอด



สไตล์การตกแต่งที่ถนัด
พี่ต้อได้หมด อย่างทัวริ่ง เพิ่งได้ศัพท์มาใหม่ เค้าเรียกว่า Bagger เพราะมีกระเป๋า อย่าง Bagger, Chopper, Old School, Bobber, Hopper อย่างของคุณโป้งคันเนี้ย Old School ล้อหน้า 21 ล้อหลังผอม ถ้าเป็น Bobber ก้อเป็นล้อหน้า-หลังเท่ากัน แต่ถ้าเป็น Hopper หน้าจะนอน แต่ล้อหน้า-หลังใหญ่เท่ากันเหมือนกัน ถ้าเป็น Old School Chopper จะทรงสูง ล้อหลังผอม อย่างล้อหลัง Stock เนี้ย ยังไงเป็น Old School Chopper แน่นอน



Step การตกแต่ง
พี่ต้อมี Step การตกแต่งอยู่ 4 สเตป อย่างสเตปแรกเอารถ Stock เข้ามา อาจจะคุยคร่าวๆว่าอยากให้ดู Look เป็นอะไร อย่างถ้าเป็น Chopper อย่างแรก โช๊คหน้าต้องยาว ถังต้องลอย 2 อย่างแล้ว Fender หลังจะสั้นจะยาวอันนี้ไม่รู้ แต่ว่าควรจะสั้นลงมาจาก Stock นิดหน่อย แฮนด์จะลิง แฮนด์จะตรงอันนี้ไม่เป็นไร ถังน้ำมันต้องลอย เฟรมต้องโล่ง พูดง่ายๆ อันนี้คือ สเตปแรก เอาแค่ถัง เปลี่ยนโช๊ค คือ Chopper ได้ อันนี้คือประหยัดสุด อย่างสเตปสอง ก้อมีเพิ่ม ยาง, แฮนด์, ล้อ ส่วนสเตป 3 ก้ออาจจะทำสีเฟรม สีถังไปเลย ถ้าสเตป 4 คือรื้อเครื่องออกมา ทำเครื่องด้วย คือทำให้มันดูใหม่เอี่ยมเลย รื้อทั้งคัน อย่างของ ลีโอพุฒ หน่ะ



งบประมาณของคนที่ต้องการจะเริ่มตกแต่งเบื้องต้นน่าจะมีซักเท่าไหร่
น่าจะมีประมาณ 5 หมื่นขึ้นไป อาจจะได้ Step แรก แสนนึง อาจจะได้ Step สอง แสนห้า อาจจะได้ Step 3 หลังจากนั้น Step 4 ขี้นอยู่กับว่าเราอยากจะใส่มากน้อยขนาดไหน คือจะใช้เบรคเดิม จะใช้พักเท้าเดิมไม๊ อย่างแผงคอ แต่ถ้า Custom เนี้ย ถังควรจะเปลี่ยนซักหน่อย ถังเดิมยังไงก้อไม่ Custom ขึ้นอยู่กับสไตล์การแต่ง อย่าง Old School อย่างลี่เนี้ย ใช้ถังเดิมได้ อย่างคุณโป้งเนี้ยใช้ถังเดิมได้ มันอยู่ที่ว่าเราแต่งเป็นอะไร แต่สิ่งแรกที่ต้องเปลี่ยนเนี้ย ส่วนใหญ่คือแฮนด์ กับท่อ พี่ต้อซื้อ Fat Boy คันแรกมาเนี้ย อย่างอื่นยังไม่เปลี่ยน ขอเปลี่ยนท่อก่อน เอาดังไว้ก่อน


TO BE CONTINUE ON PART2...

Share   Like
Comments