ไปยุโรปหลายครั้ง ได้แต่หันมองรถชาวบ้านเขาทุกครั้งที่เดินผ่าน...

      เมื่อช่วงต้นปีในงาน Bangkok Motorbike Festival 2011 ครั้งที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเชิญ Rainer Buck จาก Edelweiss Bike (MD) แห่งบริษัททัวร์ท่องเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาขี่รถเล่นในเมืองไทย ทำให้รู้ว่า ในโลกเรานี้ ยังมีเส้นทางอีกมากมายที่รอให้เราออกไปพิสูจน์ ทริป HDP in Europe 2011 จึงได้เริ่มต้นวางแผนกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ครับ โดยในครั้งนี้เริ่มที่ทริปง่าย ๆ อย่าง Alps and Lake ขี่จาก Munich เข้า Salzburg ในประเทศออสเตรีย เมืองหน้าด่านก่อนขึ้นเทือกเขาแอลป์ แล้วขี่ต่อไปที่ Gmunden ตะลุยอยู่ในทะเลภูเขาใน Alps มาที่ Kaprun พักนอนเล่นซักกางเกงในสัก 1 วัน แล้วค่อยขี่กลับมาที่ Munich

ซึ่งมีพี่ ๆ ที่คุ้นมือกันดี อย่าง พี่จุ๊บ Muscle และพี่เปียว อุดรฯ ร่วมเดินทางไปในทริปครั้งนี้ครับ

สำหรับรถที่ใช้ในการเดินทาง ขอนอกใจ HD ซักทริป เพราะทางนู้นเขาแนะนำว่า ขี่ขึ้น Alps เอารถที่น้ำหนักเบา และคล่องตัวหน่อยจะดีกว่า เลยมาจบกันที่ Ducati Multi Strada 1 คัน และ BMW 1200GS อีก 2 คัน

เริ่มต้นการเดินทางจากสุวรรณภูมิ คืนวันศุกร์ที่ 13 เวลา ตีสอง... บินสู่ โดฮา แวะยืดเส้นยืดสายกันหน่อย แล้วค่อยบินไปที่ Munich กันต่อ... กลับมาถึงไทยอีกครั้งก็คือ เที่ยงของวันอาทิตย์ที่ 22 ครับ

     งานนี้กว่าจะได้ Visa เข้าประเทศเยอรมัน ก็หวุดหวิดอดไปขี่เหมือนกันครับ เริ่มตั้งแต่จองคิวขอ Schengen Visa ที่จองกันตั้งแต่ต้นเดือนเมษา แต่กว่าจะได้คิวก็วันที่ 3 พฤษภาคม พอผมกับพี่จุ๊บ เอาเอกสารเข้าไปยื่นที่สถานฑูต กลับโดนบอกว่า พักอยู่ใน Austria นานกว่า ให้ไปยื่นที่ Austria ซวยหล่ะสิ!! เพิ่งรู้ว่าพักอยู่ที่ไหนนานกว่าให้ไปขอที่นั่น เป็นเงื่อนไขอันดับหนึ่ง ผมดันเข้าใจว่า 2 เงื่อนไขมีน้ำหนักเท่ากัน ไปขอที่ Austria กว่าจะได้คิวก็วันที่ 13 พฤษภา... แต่ในที่สุดเราก็หาทางไปทำ Visa จนได้ บินวันที่ 13 ได้ Visa วันที่ 12 ครั้งหน้าไม่เอาแล้วครับ เกือบเสียเงินค่าทัวร์ฟรีซะแล้ว

     สำหรับทัวร์ของ Edelweiss เท่าที่อ่านดูในเว็บและหนังสือที่ได้รับมา มีทัวร์อยู่ทั่วโลกในทุกทวีปครับ และการไปร่วมทัวร์ ก็เหมือนกับเราซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบปกติทั่วไป อยากจะไปคนเดียวก็ได้ ก็ซื้อทัวร์ไปแล้วไปแจมกับคนอื่น คราวนี้ ผม, พี่จุ๊บ และพี่เปียว จะไปเจอกับกรุ๊ปทัวร์ที่เต็มไปด้วย American กว่า 10 ชีวิต พร้อมด้วยอุณหภูมิ 8 - 20 องศาบนเทือกเขา Alps

การเดินทางของ 3 กระเหรี่ยงไบเกอร์ชาวไทยจะเป็นอย่างไร...
มาติดตามชมกันต่อเลยครับ


ไปคราวนี้ง่ายตรงที่ จ่ายเงินอย่างเดียว ซื้อทัวร์กับ Edelweiss แล้วให้ทางนั้นจัดการให้ทั้งหมด สำหรับของที่จำเป็นที่สุดสำหรับทริปนี้คือ Passport + ใบขับขี่สากล + เงิน Euro ครับ 

เพิ่งมาถึง Doha ครับ

ก่อนอื่นต้องซื้อเสบียงเตรียมเอาไว้ก่อน เพราะขนมาจากที่สุวรรณภูมิไม่ได้ แต่กลายเป็นว่า Green Label ที่นี่ถูกกว่าที่เมืองไทยซะอีก

พี่เปียว เลยซื้อ Marlboro ซะ 2 คอต ซองละ 36 บาท ถูกจริง ๆ

มีอาหารเสิร์ฟตลอดการเดินทาง

จอทีวีเล็กไปหน่อย หนังก็มีน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้ดู 

ในที่สุดก็มาถึงสนามบินมิวนิค หลังจากนั่งเครื่องมาเกือบ 16 ชั่วโมง ทุกทีมานั่งแต่แบบ Direct กินยานอนหลับแล้วตื่นขึ้นมาก็ถึงเลย เพิ่งรู้ว่านั่งแบบ Transit มันทรมานอย่างนี้นี่เอง

อุณหภูมิข้างนอกประมาณ 16 องศา ตอนบ่าย 2

กะว่าออกจากสนามบินแล้วจะดิ่งไปที่ HD of Munich แต่แล้วก็มาเกิดเรื่องขึ้นซะก่อน พอลงเครื่องบินปุ๊ป จะมีตำรวจมาคอยตรวจพาสปอร์ต กับ วีซ่า ถึงหน้าประตูเครื่องบิน หลังจากที่ผมผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ต.ม. ของเยอรมัน เห็นวีซ่าของพี่เปียว ที่เป็นของ ฝรั่งเศส แล้วสงสัยว่าทำไมถึงลงที่มิวนิค

เลยขอเชิญตัวไปนั่งคุยกันที่โรงพักในสนามบินซะหน่อย

ตอนนี้ยังคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยังยิ้มแย้มกันได้อยู่ แต่เดี๋ยวซักพัก ตำรวจมาบอกว่าให้ผมกับพี่จุ๊บ ออกไปข้างนอก เพราะเป็นวีซ่าเยอรมัน ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนพี่เปียวต้องอยู่ก่อน และอาจจะต้องโดนส่งตัวกลับ ถ้าหากไม่มีหลักฐานว่าทำไมถึงขอวีซ่าฝรั่งเศสแล้วมาเข้าทางนี้... ซวยหล่ะสิ!!

ท่านใดที่กำลังจะใช้วิธีจ้างให้คนไปทำวีซ่าเชงเก้น อย่างวีซ่าฝรั่งเศสแล้วมาเข้าทางเยอรมัน โปรดระวังนะครับ ถ้าไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจะไปพักที่ฝรั่งเศสจริง ๆ ละก็ เขาส่งกลับ 20 คนรวดก็ทำมาแล้ว คราวนี้พี่เปียวก็เลยโดนกักตัวอยู่ในโรงพัก โทรศัพท์ก็โทรติดต่อกันไม่ได้ ตอนนี้ได้แต่นามบัตรของโรงพักเยอรมันมาเป็นที่ระลึก

แต่กองทัพก็ต้องเดินด้วยท้อง หิวแล้วคิดแผนไม่ออก ขอรองท้องด้วย Kebab ซักอันก่อน ชิ้นเบ้อเริ่ม 4.5 ยูโรเอง

นั่งวางแผนกับพี่จุ๊บอยู่ด้านนอกว่าจะไปบอกกับตำรวจยังไงดี ระหว่างคิดเลยต้องหาเบียร์มานั่งดื่มย้อมใจกันหน่อย

ที่นี่เป็นเขตของเบียร์ Erdinger มั้งครับ ไปส่วนไหนก็เห็นมีแต่เบียร์ยี่ห้อนี้

     ดู ๆ แล้ว ต้องขอบอกว่าตำรวจที่นี่ใจดีครับ เขาคงเห็นว่าเราตั้งใจจะมาขี่มอเตอร์ไซค์กันจริง ๆ เพราะอุปกรณ์เต็มกระเป๋า หลังจากกักตัวไว้เกือบ 4 ชั่วโมง เรียกล่ามชาวไทย มาช่วยสอบปากคำก็แล้ว ชวนพี่เปียวออกไปนั่งสูบบุหรี่ก็แล้ว แถมยังบอกให้พวกผมเอาหลักฐานจองที่พักในฝรั่งเศสส่งเมลเข้าไปให้หน่อย จะได้ปล่อยตัวได้ จะไปหาจากไหนหละครับ กุขึ้นมาเองทั้งนั้น... สุดท้ายเลยให้บริษัททัวร์ Edelweiss โทรไปบอกว่าทริปของพี่เปียวที่จะไปขี่ที่ฝรั่งเศสยกเลิกเพราะคนไม่พอ เลยต้องย้ายพี่เปียวมาขี่ทาง Austria แทน ตำรวจเลยเห็นใจ หันไปโหวตกับตำรวจคนอื่น ๆ ในโรงพักว่าเชื่อหรือเปล่า เขาคงขี้เกียจพาไปนั่งสูบบุหรี่แล้วมั้ง เลยพร้อมใจกันเชื่อเรื่องที่บอก

ในที่สุดพี่เปียวก็ได้ออกมานั่งดื่มเบียร์ Erdinger ฉลองได้เข้าประเทศ และน่าจะเป็นคนแรกที่ไม่โดนส่งตัวกลับ มาคราวนี้ได้ลุ้นกันตลอดทางจริง ๆ 

ตอนนี้ออกเดินทางจาก กทม. มาได้ 20 ชั่วโมงแล้วครับ นั่งแท๊กซี่ Mercedes-Benz ไปโรงแรมกันต่อ

บรรยากาศในชนบทของเยอรมัน เงียบสงบ ร่มรื่น

มาถึงโรงแรม Henry ในเมือง Erding เมืองเล็ก ๆ ใกล้ ๆ กับ Munich ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของทริปขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งนี้ ในระหว่างมื้อค่ำ ก็จะมีการแนะนำตัวของผู้ร่วมทริปกันหน่อย อายุเฉลี่ยของคนมาขี่ในครั้งนี้อยู่ที่ 60 ปีครับ บางคน 70 กว่าก็มี

ส่วนใหญ่จะมาจาก USA

ลุง Mike คนนี้มาจาก Alaska อยู่ที่บ้านแกขี่ Yamaha Fazer

หลังจากกินมื้อค่ำกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลามารับรถกันก่อน พรุ่งนี้จะได้ไม่เสียเวลาการเทรน ครั้งนี้ได้ลองขี่เจ้า Ducati Multi Strada

Mr. Hans ไกด์ทัวร์ของเรากำลังอธิบาย BMW R1200GS ให้พี่จุ๊บ กับพี่เปียวฟัง

แล้วก็ถึงเวลานอนซักที หลังจากออกเดินทางมาได้ 24 ชั่วโมงพอดี ง่วงกันสุด ๆ...


ติดตามต่อใน HDP in Europe 2011 ตอนที่ 2 ครับ