A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
The real Steve McQueen
By HDP PR
DATE: 2011.07.01
VIEW: 2219
POST: 0

  Bud Ekins ขี่มอเตอร์ไซค์กระโดดข้ามรั้วในหนัง The Great Escape และขับรถในฉากไล่ล่าของเรื่อง Bullitt เขาคือซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์ที่คุณไม่เคยได้ยินชื่อ

Words: Gary Inman
Photography: Fly
ที่มา: นิตยสาร TOPGEAR ฉบับเดือนพฤษภาคม 2554
 

 

  ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องผิดที่จะหลงรัก Steve McQueen ใช่ครับ เขามีรสนิยมดีเรื่องรถ เสื้อผ้า ผู้หญิง เขาเติบโตขึ้นมาจากพื้นเพที่ไม่ค่อยจะดีนัก จนได้มาเป็นหนึ่งในดาราใหญ่แห่งยุค แล้วก็ใช่ครับ เขาเคยแข่งมอเตอร์ไซค์ ทำผลงานได้อย่างงดงาม เคยเป็นตัวแทนสหรัฐฯ ลงแข่งในรายการ International Six Days Trial สุดโหดที่จัดในเยอรมนีตะวันออกเมื่อปี 1964 ด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เขาทำได้โดยปราศจากแรงสนับสนุนจากกองทัพผู้ดูแล ทีมประชาสัมพันธ์ ช่างซ่อม โปรดิวเซอร์ ทั้งหมดนี้ทำให้ MCQueen เหมือนกับตัวละครในหนังเรื่องหนึ่งที่เขาเล่นอย่างที่สุด แฟนๆ มองว่าเขาเป็นเเหมือนเหล้ารสขมที่ยิ่งแก่ ยิ่งดีกรีแรง แต่สิ่งที่อาจทำให้แม้แต่แฟนพันธ์แท้ยังประหลาดใจก็คือ ส่วนผสมสำคัญในค็อกเทล McQueen ที่มีชื่อว่า Bud Ekins  
     
 
2010 Dyna Wide Glide
Bud Ekins

Bud Ekins ผู้ยิ่งใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วคนนี้แหละคือ Steve McQueen ตัวจริง เป็นตำนานหลังฉากและเป็นอเมริกันฮีโร่ที่มนุษย์เดินดินกินกาแฟสมัยใหม่อย่างเราโหยหา Ekins เกิดในเดือนพฤษภาคม ปี 1930 หลัง Steve McQueen สองเดือน และเสียชีวิต 27 ปีหลัง McQueen โดย Ekins ยังคงอาศัยอยู่ในแถบ North Hollywood ตอนที่เขาให้สัมภาษณ์ครี้งนี้ (ครั้งสุดท้ายในชีวิต)

ผมเคาะเท้าไปเรื่อยขณะนั่งรอ Bud ที่จะมาสายนิดหน่อย อาจเป็นเพราะดับเบิลแฟรปปุชิโนที่ผมเพิ่งซดไป แต่จริงๆ ผมรู้ดีว่าเป็นเพราะความตื่นเต้นที่จะได้เจอกับ Bud ตัวจริงเสียงจริงต่างหาก

เพื่อนของ Bud มาถึงก่อน เลยเปิดห้องให้ผมเข้าไปสำรวจ ฝาผนังเต็มไปด้วยโปสเตอร์บ่งบอกถึงอาชีพแข่งมอเตอร์ไซค์ออฟโรด นอกจากนี้ยังมีรูปของ Bud ในหมวกเปิดหน้าชูถ้วยรางวัลใบใหญ่กับรูปผลงานเด่นในกีฬามอเตอร์สปอร์ตอีกหลายใบ มีโต๊ะพูลเขรอะไปด้วยขี้บุหรี่ คอกเด็กเล่น โต๊ะทำงานมีกระดาษกองท่วม และโทรศัพท์พ่วงเครื่องตอบรับอัตโนมัติ ส่วนห้องข้างๆ มีมอเตอร์ไซค์คลาสสิคโบราณทั้งของ Harley-Davidson และ Matchless บางคันเป็นของ Bud เอง บางคันอยู่ระหว่างซ่อมแซม

 
     
  รถกระบะ Ford รุ่นใหม่สีขาววิ่งเข้ามาจอดในสนาม ชายแก่ย่างเท้าลงมาจากที่นั่งคนขับ มือตกกระข้างหนึ่งจับไม้เท้าแน่น Bud Ekins เดินโขยกเขยกเข้ามาในบ้าน ร่างชะลูดของเขาวัดความสูงได้หกฟุตครึ่ง ในสมัยหนุ่มๆ หุ่นเขาเหมือนกับช่างตัดไม้ รูปร่างกำยำ อันเป็นผลมาจากพันธุกรรมส่วนหนึ่งและขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่สากไปลากมาอีกส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันแขนยาวๆ ของเขาผอมเหลือแต่กระดูก  
     
 
 
     
  ผมคงไม่อธิบายรูปลักษณ์ของเขาว่าผอมบาง แต่การใช้ชีวิตแบบสมบุกสมบันทำให้ร่างกายเขาเสื่อมสภาพไปมาก แม้จะถือไม้เท้าอยู่ก็ยืนไม่ได้นานโดยที่ไม่ปวดเอว เขากระย่องกระแย่งไปที่เก้าอี้ประจำแล้วทรุดตัวลงนั่ง เมื่อวางมือข้างหนึ่งทับอีกข้างที่จับไม้เท้าอยู่ รอยสักสีน้ำเงินจางๆ จึงปรากฏให้เห็นบนผิวสีน้ำตาลเหี่ยวย่น เขาเหลือบเห็นสีหน้าตกใจของผม

"ผมได้มาตอนอายุ 13 หรือ 14" Bud บอก
"รอยสักเหมือนส่วนหนึ่งของการโตเป็นผู้ใหญ่ ใครๆ ก็ต้องมีรอยสัก ผมสักด้วยเหตุผลเดียวกับที่คนอื่นเริ่มสูบบุหรี่นั่นแหละ" Bud เป็นสิงห์อมควันมานานแล้ว "ยังไงเราก็ต้องตายด้วยอะไรสักอย่างอยู่แล้ว" เขาว่า

เราเริ่มคุยกัน และ Bud ดึงดูดความสนใจของเราทุกคนในห้องไว้ได้หมด เขาเป็นคนถ่อมตัว แต่เป็นนักเล่าเรื่องโดยธรรมชาติ เรื่องราวเหลือเชื่อมากมายหลั่งไหลออกมา ทุกอย่างเกิดขึ้นกับเขาและรอบๆ ตัวเขาเพราะเขาเป็นอย่างที่เป็น เขาไม่ได้ป้วนเปี้ยนอยู่กับเเหล่าดารา แต่ดารามาห้อมล้มเขาเอง


รายชื่อลูกค้าของเขาน่าตกใจมากครับ ถ้ามีดาราคนไหนอยากได้มอเตอร์ไซค์สวยๆ (Triumph เป็นที่นิยมมาก) ก็มาหาได้ที่ร้านของ Bud เขาเป็นคนสอน Warren Beatty ให้ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นด้วย บางครั้งบางคราวก้จะมีคนดังเข้ามาทำงานในร้าน Bud ไม่ขาดสาย "ผมไม่เคยเห็น Evel Knievel ขี่ผาดโผนหรอก แต่หมอนั่นเคยทำงานกับผม" Bud ยังจำได้ดี
 
     
  "Steve McQueen เป็นสิงห์นักบิดอีกคนที่รู้จักกับ Bud จนทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน Steve มักจะขลุกอยู่ในบริษัทดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ Triumph ที่ Bud เป็นเจ้าของอยู่"  
     
  "เขาถังแตก ผมเลยให้ทำงานเปลี่ยนยาง เขาอีโก้แรงตั้งแต่สมัยนั้น ก่อนจะดังเสียอีก ขับผาดโผนได้ทุกอย่าง ทั้ง Norton, Triumph ผ่านมือมาหมดแล้ว ที่ทำกับ Harley ผมว่างี่เง่าเกินไป แต่ Harley ก็จ่ายเงินจ้างเขานะ"

Steve McQueen เป็นสิงห์นักบิดอีกคนที่รู้จักกับ Bud จนทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน Steve มักจะขลุกอยู่ในบริษัทดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ Triumph หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกที่ Bud เป็นเจ้าของอยู่ บางครั้ง McQueen ก็จะอยู่หลังร้านฝึกปะยางสำหรับการแข่งระยะไกล
 
     
 
Steve McQueen
 
     
  Ekins ได้รับเชิญไปยุโรปเป็นเพื่อน McQueen ระหว่างการถ่ายทำเรื่อง The Great Escape โดยทั้งคู่ทำงานร่วมกันในการกระโดดครั้งประวัติศาสตร์ซึ่งน่าจะเป็นฉากสตันท์ที่โด่งดังที่สุดตลอดกาล แต่คนที่ตัดผมย้อมสีให้เหมือน McQueen และคนที่ขี่ Triumph เหินฟ้าในคราวนั้นคือ Bud เอง

หนึ่งปีให้หลัง ทั้งคู่กลับไปยุโรปเพื่อเข้าแข่งขันในรายการ International Six Days Trial ในเยอรมนีตะวันออก ก่อนเริ่มแข่ง ทีมจากอเมริกาแวะไปอังกฤษเพื่อซื้อ Triumph TR6SC เตรียมสภาพและหาซื้ออุปกรณ์รวมถึงแจ็คเก็ต Barbour ทำในอังกฤษด้วย ทั้งคู่พักในลอนดอนและผ่อนคลายเตรียมรับมือกับการแข่งอันหฤโหด
 
 
Bud ในการแข่งขัน


"เราอยู่ในที่พักชื่อ Ogilvy House มีรถ Rolls กับคนขับ ครั้งหนึ่งพอเราออกจากบ้าน Steve ตะโกนว่า 'หยุด หยุด หยุด!' ลงรถแล้ววิ่งข้ามถนนไปหาผู้หญิงสองคน 'ขอโทษครับคุณผู้หญิง' เขาว่า 'ผมเพิ่งเข้าเมืองมา ปกติคุณทำอะไรสนุกๆ บ้างครับ เรากำลังจะจัดปาร์ตี้กัน นี่เบอร์โทรผม พาเพื่อนสาวคุณมาให้หมดนะครับ' แล้วพวกเธอก็มาจริงๆ ปาร์ตี้งานนั้นลากยาวตั้งอาทิตย์หนึ่งได้"
ถ้าพูดถึงมอเตอร์ไซค์ Bud มีที่รักอยู่หลายคัน แต่เวลาแข่งจะเลือกคันที่รู้ว่าจะชนะได้เท่านั้น "ผมขี่ Triumph มาตลอด ผมว่าไม่มีอะไรสู้ได้จนกระทั่งมีเครื่องสองจังหวะ จากนั้นมาผมก็ขี่ Huskies (Husqvarnas มอเตอร์ไซค์จากผู้ผลิตสวีเดน) ผมเอามันไปแข่ง Six Days สองหน ชนะเลิศทั้งสองหน"

Ekins กับน้องชายเป็นผู้ก่อตั้งการแข่งออฟโรด Baja-1000 ที่ตอนนี้มีสถานะเป็นการแข่งระดับตำนาน โดยเริ่มขึ้นมาจากความตั้งใจจะสร้างสถิติในการแข่งวิ่งไปถึงปลายเหลม "เรารู้ดีว่าจะสร้างสถิติใหม่ เพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อน" นอกจากนี้เขาเคยชนะเลิศรายการ Catalina GP และ Big Bear Endurance Run ในสมัยที่เคยเป็นการแข่งที่สำคัญที่สุดในสหรัฐฯ ด้วย "ถ้าผมทำอาชีพนี้ช้าไปสัก 10 ปี คงทำเงินได้หลายล้าน พอถึงตอนนั้นโรงงานจ่ายเงินนักขับแบบผมตั้งล้านเหรียญ แค่ให้เข้าร่วมทีมเท่านั้น

 


 
                             รถที่ Bud Ekins ใช้ในฉากกระโดดของหนังเรื่อง The Great Escape

  จำนวนคอลเล็กชั่นมอเตอร์ไซค์โบราณของ Bud ช่วงที่เยอะที่สุดมีถึงกว่า 140 คัน รวมถึงรุ่นที่หายากสุดๆ ด้วย ส่วนใหญ่เป็นมอเตอร์ไซค์สัญชาติอังกฤษหรือไม่ก็อเมริกัน "ผมเคยเป็นดีลเลอร์ให้ Honda แต่ผมกลับไม่ค่อยสนใจของญี่ปุ่นเท่าไหร่
"ไม่เคยมีมอเตอร์ไซค์คันไหนที่ผมจะไม่ขายทิ้งทุกอย่างมีราคาในตัวของมัน" Bud ว่า

มอเตอร์ไซค์รุ่นที่หายากที่สุดสองคันที่เขาได้มาแล้วขายไปนั้นเคยอยู่ในคอลเล็กชั่นส่วนตัวของ McQueen เพื่อนสนิทมาก่อนด้วย "ในพินัยกรรมเขาทิ้งไว้ให้ผมสองคันให้ผมเลือกได้ ผมเลยเลือกเอาที่แพงที่สุด มี Cleveland สี่สูบกับ Iver Johnson สองสูบรุ่นปี 1914 ขายไปแล้วทั้งคู่
เมื่อไปแตะประเด็นอ่อนไหวเรื่องความตายของเพื่อนสนิท Bud เล่าต่อว่า "เขาตายตอนอายุแต่ 49 ผมช็อคไปเลย ไม่คิดว่าเขาจะมีอะไรผิดแปลก"

ผมบอก Bud ว่าเคยอ่านเจอว่าแร่ใยหินในชุดกันไฟเป็นสาเหตุของมะเร็งที่คร่าชีวิตเขา

"ในชุดไม่มีใยหินหรอก" Bud พูดแกมหัวเราะ "เป็นเพราะมะเร็งจากการโดนแดดมากกว่า เขาผมทองตาสีฟ้า อยู่แถว Pakm Springs ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่เสื้อทั้งวัน เขาชอบไปกองถ่ายโดยไม่ต้องเสียเวลาแต่งหน้าแต่งตัวมาก    
 

2010 Dyna Wide Glide
ภาพยนตร์เรื่อง Bullitt
2010 Dyna Wide Glide
ภาพยนตร์เรื่อง The Great Escape













 


 
ชุดและรถมอเตอร์ไซค์ที่ Bud ใช้ในการแข่งขัน

Bud ไม่ได้รับบทสตันท์แทนเพื่อนเฉพาะในหนัง The Great Escape เท่านั้น "ผมไปถ่าย Bullitt ในฐานะนักขับสารพัดประโยชน์ ตอนแรก Steve ก็จะขับเองทั้งหมด แต่ครั้งแรกที่ขึ้นรถ เขาทำไอ้รถบ้านั่นหมุนจนเกือบไปชนตากล้องเข้า คนคุมสตันท์เลยบอกว่า 'เอาหมอนั่นออกไป' แล้วบอกผมว่า 'Ekins คุณเอาเสื้อ McQueen ไปใส่' ทีมงานก็ช่วยกันตัดและฉีดสีผมใหม่ เพราะทรงเขาไม่เหมือนกับของผมเลย คนที่ตัดให้คือ Jay Sebring ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วในคดีฆาตกรรม Sharon Tate เขาเคยตัดผมให้ Sinatra ด้วย ปกติลูกๆ เป็นคนตัดให้ผมเอง

ผลจากฝีมือการขับของเขาทำให้ฉากนั้นกลายเป็นหนึ่งในฉากขับรถไล่ล่าที่ดังที่สุดตลอดกาล ในขณะที่ถ่าย McQueen อยู่หลังพวงมาลัยนั้น Bud จะหลบอยู่ตรงที่วางเท้าข้างคนขับ พยายามทำให้เขาหัวเราะให้ได้

 
ในระหว่างที่คุยกันนอกเรื่องของ McQueen แล้ว Bud ยังเอ่ยถึงหนังเจมส์บอนที่เคยทำงานด้วย (ภาค Diamonds are Forever) ฉากขับรถไล่ล่าในเรื่อง The Blue Brothers รวมถึงหนังเรื่อง Bullitt และ James Garner เขาอธิบายถึงสายสัมพันธ์ที่มีกับ Hell's Angels Motorcycle Club และกองถ่ายหนังเกรดบีอันเป็นที่ที่เขาได้พบกับสมาชิกกลุ่มดังกล่าว เขาเล่าเรื่อง Evel Knievel อีกหน่อย รำลึกถึงเรื่องราวตอนที่ขับผาดโผนให้ Triumph, Baja และ Big Bear ด้วย Bud เล่าเรื่องแบบนี้ได้ทั้งวันล่ะครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว เพราะเวลาของ Bud สำหรับเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้จบลงแล้ว ต่อไปนี้ผู้คนจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาแทน


 
                                                          Steve McQueen และ Bud Ekins

 

  มีข่าวลือว่าจะมีคนทำหนังเกี่ยวกับการแข่ง International Six Days Trial ฤดูกาล 1964 โดยวางตัว Brad Pitt ให้เป็นดารานำ รับบทเป็นตำนานชื่อ Steve McQueen แต่ยังไม่มีใครถูกเสนอชื่อให้รับบทของ Bud Ekins ซึ่งหาตัวแสดงได้ยากกว่ากันเยอะ ดาราอย่าง Steve McQueen อาจจะหาไม่ได้อีก แต่คนอย่าง Bud Ekins นั้นไม่มีวันหาได้อีกแล้วอย่างแน่นอน  



  สัมภาษณ์ Bud Ekins ถึงฉากขี่มอเตอร์ไซค์ในภาพยนตร์เรื่อง The Great Escape

 

 




 

Share   Like 3
Comments