A-C-01<br>Expired::
A-C-02<br>Expired::
A-C-03<br>Expired::
 
[Interview & Review]
 
VINTAGE BIKE THAILAND: ชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทย ภายใต้ มูลนิธิอนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทยในพระบรมราชูปภัมป์
By HDP PR
DATE: 2011.03.01
VIEW: 2136
POST: 0

 

ตำนานรถ Harley-Davidson ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 1903 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ได้ออกรถรุ่นครบรอบ 105 ปีมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้น ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีดอิเลคทรอนิค สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้หลายๆท่านใผ่ฝันอยากจะมีไว้ครอบครอง แต่อีกด้านหนึ่งของตำนานอันยาวไกลนี้ ยังมีกลุ่มคนที่ยังคงหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรถ Harley-Davidson แบบดั้งเดิม เครื่องยนต์ตั้งแต่สมัย Flathead, Knuckle Head, Panhead หรือ Shovel Head ระบบจ่ายน้ำมันแบบคาบูเรเตอร์ คลัชท์เท้าเกียร์มือ ชิ้นส่วนหลายชิ้นที่เฝ้าเก็บสะสมเพื่อนำมาชุบชีวิตรถโบราณเหล่านี้ให้กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งนี้ HDP ได้รับเกียรติจาก พี่แต๊ว แห่ง Vintagebike Thailand ที่เจียดเวลาพักผ่อนช่วงบ่ายวันเสาร์ให้เข้าไปพูดคุยถึงบ้านพักย่านรามอินทรา และได้พบกับ ULH ปี 1937 ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนกับเพิ่งออกห้างจอดอยู่ภายในบ้าน ทำให้ต้องนั่งเล็งอยู่นานกว่าจะได้เริ่มบทสนทนากันในบ่ายวันนั้น

 

พี่แต๊วเริ่มขี่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
ก็ตั้งแต่ประมาณซักอายุ 14 - 15 ก็ขี่มา แต่ก็ไม่ได้ขี่รถพวกยุโรป รถอเมริกัน ก็ขี่รถญี่ปุ่นอะไรอย่างนี้ พวก ฮอนด้า ซูซุกิ ที่มันเป็นสองท่อคล้ายๆ ฮอนด้าหมูอะไรประเภทนี้ ก็ขี่อย่างนั้นก่อน ก็ชอบรถโบราณทุกอย่าง แต่ว่าชอบมากก็คือ Harley นี่แหล่ะครับ

แล้วเริ่มต้นเล่นรถ Harley โบราณยังไงครับ ซื้อรถเก่าจากรถนำขบวนหรือเปล่า
ไม่ใช่ครับ ผมสั่งซื้อจากต่างประเทศ แล้วก็เอาเข้ามาอย่างที่เห็น เอาเข้ามาเป็นชิ้นๆ อย่างผมนี่ผมคิดว่าถ้าเราซื้อมาเป็นคันข้อดีก็คือราคาอาจจะถูก แต่สิ่งที่ตามมาถ้าเกิดเราซื้อเป็นคันแล้วอุปกรณ์หรือวัสดุ ถ้าสมมติว่ามันใช้ไม่ได้ ก็จะเท่ากับซื้อรถสองครั้ง เราก็ต้องซื้อพาร์ทอะไรมาใส่ แต่มันก็คิดไม่เหมือนกันทุกคนก็แล้วแต่ใครจะคิด แต่อย่างของผมนี่ ของผมก็เลือกของที่ผมชอบทีละชิ้น ซื้อ เฟรม ซื้อเครื่อง ซื้อเกียร์ แล้วก็ซื้อออปชั่นอะไรมาใส่ อย่างรถผมซื้อมา ผมเก็บอะไหล่ ก็ประมาณซักสามปีครับ พออะไหล่ครบประมาณ 90% ผมก็ให้อ้นเค้าทำ คือยกไปที่บ้านอ้นก็ไปนั่งใส่ๆ แล้วก็ขาดอะไรเค้าก็จะติ๊กมา

 
 

แล้วก็มาดูตัวไหนที่ยังขาดก็สั่งเพิ่มเข้ามา
ใช่ครับตัวไหนที่ขาดอยู่ก็สั่งเพิ่มเข้ามา แต่ว่าเวลาผมจะทำรถอะไรซักคันเราก็จะคิดแล้วว่า โอเคตัวนี้เราจะทำเป็นรูปแบบนี้ ก็ไปหาดูทางอินเตอร์เน็ตว่าถ้าเป็นปีนี้ เวอร์ชั่นอะไร อย่างรถเวอร์ชั่นทหารนี่มันควรจะมีรูปแบบอะไรยังไง เราก็มาดู อินเตอร์เน็ตนี่ช่วยได้เยอะ เข้าไปดูตามเว็บไซด์ต่างๆ



เทียบกับสมัยก่อนเป็นยังไงครับ
ก็ลำบากฮะ ก็คือสมัยก่อนนี่ที่มันลำบากเพราะว่าการสื่อสารมันไม่เหมือนสมัยนี้ใช่มั้ยครับ สมัยนี้เราอยากรู้อะไรนี่เราก็เข้าไปที่กูเกิ้ล เราเซิชเข้าไปปุ๊บๆๆแล้วก็เจอ อะไรมันก็สะดวกขึ้น ถ้าเป็นสมัยก่อน ต้องใช้เวลา เพราะว่าการสั่งอะไหล่ มันจะเป็นระบบส่งไปทางเมล ทางไปรษณีย์ถูกต้องมั้ยฮะ พอเราส่งไปทางไปรษณีย์ก็จะใช้เวลาประมาณอาทิตย์นึง พอเค้ารับเมลเราปั๊บ เค้าก็ต้องเอาดราฟท์เราไปเข้าแบงค์ แล้วก็รออีกหนึ่งอาทิตย์ เพื่อให้เงินผ่าน พอเงินผ่านแล้วก็ส่งของเข้ามา ก็จะประมาณสองอาทิตย์ เป็นเดือนๆ มันก็อยู่ที่แล้วแต่คนที่ชอบใช่มั้ยครับ ส่วนผมเอง ผมชอบรถโบราณการที่จะทำมันก็ต้องใช้เวลาฮะ ไม่เหมือนรถใหม่ รถใหม่ง่าย วิ่งเข้าคุยกับดีลเลอร์ปุ๊บเดียวจบ











 

 

 



อย่างรถเก่าที่สะสมอยู่ตอนนี้มียี่ห้ออะไรบ้างครับ
ผมมีฮาร์เล่ย์อย่างเดียวครับ อย่าง Knuckle Head ที่อยู่ที่บ้านอ้น ที่กำลังจะทำ ก็คิดว่าปลายปีนี้น่าจะเสร็จ เป็นรุ่น 1200 มี Sidecar เป็นเวอร์ชั่นตำรวจ


ก็มาเป็นพาร์ทๆ อย่างงี้เหมือนกัน
ใช่ครับ ก็คือค่อยๆเก็บมา ซื้อเฟรม ซื้อเครื่อง ซื้อเกียร์ ซื้อช่วงหน้า ซื้อล้อ ซื้ออะไรอย่างงี้ คือมาเป็นชิ้นหมดฮะ แล้วก็ส่วนปีที่มันลึกๆลงไปก็อยากได้แต่ว่าบางทีตอนนี้ผมยังต้องใช้งานในการขี่อยู่ แล้วก็ทุนที่เราจะไปเอารถมาจอดเฉยๆนี่มันก็ยัง คือพูดง่ายๆเรายังไม่พร้อม ตอนนี้ทำรถออกมาเราก็อยากขี่ได้จริงด้วย แล้วก็เกี่ยวกับทำงานในมูลนิธิ หมายถึงว่าอย่างคนที่เค้าต้องการให้เราไปเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องรถโบราณนี่ บางทีเราก็สะดวกเอารถที่บ้านเราไปเลยอย่างงี้ ก็จะบอกเค้าว่าเอารถสไลด์มาเลยนะยกไป สี่ ห้า คันก็เอาไป ปัญหาบางทีถ้าสมมติว่า อย่างไปขอแรงเพื่อนๆนี่ใช่มั้ยฮะ มันก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เค้าขับมาด้วยอะไรมาด้วย มันก็จะลำบากเกรงใจเค้า ถ้าเรามีให้ครบซะเลยอะไรอย่างงี้ มันก็จะสะดวกด้วย ถ้าเกิดเค้าต้องการรถประมาณซักสี่คัน สี่ห้าคัน โอเคของเราก็มีอยู่แล้ว

 



 

 

 

 

แล้วเวลาออกทริปหล่ะครับ
ก็มีฮะ ส่วนมากผมจะให้อ้นเค้าขี่ไปที่เป็นช่างทำ ผมจะไม่ค่อยได้ขี่ ก็จะให้อ้นเค้าขี่ไปกับพวกนพ พวกนี้เค้าจะรู้จักผมมาตั้งแต่เด็ก เค้าเป็นวัยรุ่นอะไรอย่างนี้ฮะ แล้วเดี๋ยวนี้เค้าก็เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ แล้วงานที่ผมทำอยู่ก็สอดคล้องกับเค้าพอดี เค้าก็เลยช่วยเหลือกิจกรรม อย่างมีคนมาติดต่อขอรถไปโชว์ เค้าก็ช่วยงาน ผมก็มีทั้งรถอังกฤษ รถเยอรมัน รถญี่ปุ่นอะไรอย่างงี้ ก็ทุกค่ายผมไม่จำกัดเฉพาะ Harley ก็ดูว่าคนที่มาติดต่อนี่ต้องการรถประเภทอะไร อย่างถ้าเป็นของพวกอเมริกันเราก็อาจจะเอาพวก Harley พวก Indian ไป แต่ถ้าเป็นอย่างของพวกอังกฤษผมก็จะโทรติดต่อคนที่เค้าชอบรถอังกฤษรถเก่า ผมก็ขอให้มาช่วยงานกันหน่อย ประมาณนี้เราก็ไม่ได้จำกัดว่า จะต้องเป็นพวกเราหรือว่าอะไร เพราะว่าอยู่ตรงนี้มันก็เปิดกว้างอยู่แล้ว

 




สมาชิกตอนนี้เยอะไหมครับ
ก็สามสี่ร้อยคน แต่ว่าจริงๆแล้วก็มีโทรเข้ามาประจำ แต่ว่าทีนี้ปัญหาที่เรายังไม่ได้รับเพิ่มเติมมันก็มีอยู่หลายเรื่องที่คนไม่เข้าใจ คือบางคนเค้าเข้ามาอยู่ในมูลนิธินี่ วัตถุประสงค์หลักก็คือรถเค้าไม่มีทะเบียน พอไม่มีทะเบียนนี่คิดว่าทางเรานี่จะไปคุ้มครองใช่ไหมฮะ แต่ว่าจริงๆแล้วนี่เราก็อยากจะช่วยเหลือ แต่ว่าต้องให้มันเป็นเคสๆไป เพราะว่าทางผู้ใหญ่เค้าบอกอยู่แล้วว่าเรานี่ก็คือไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย แต่มีอะไรมันก็อาจะต่อรองกันได้ ประมาณนี้ครับ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ


 

 

 

 



 

 

 




 

รถที่เอาเข้ามาประกอบใหม่จดทะเบียนได้ไหมครับ
รถผมไม่มีทะเบียนครับ แต่ว่าบางทีอย่างเจ้าหน้าที่นี่เค้าจับเราหรือว่าอะไร มีการตรวจสอบ เราก็อธิบายให้เค้าเข้าใจฮะว่าสิ่งที่เราทำมานี่ คือสิ่งที่เราทำมามันเป็นมูลนิธิแบบนี้แล้วเราคุยกันด้วยเหตุผลใช่มั้ยครับ เราคุยกันด้วยเหตุผลว่านี่ สิ่งที่พวกผมทำมานี่ ทุกวันนี้ผมก็ต่อสู้ในเรื่องของ ถามว่าพวกผมผิดมั้ย พวกผมก็อยู่กันแบบผิดๆ แต่ว่าผมก็พยายามจะทำให้มันถูกต้อง ไม่ว่ามีกระบวนการอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้พวกผมถูกต้องได้ โดยการจดทะเบียนหรือว่าอะไรก็แล้วแต่พวกเราก็ยินดีที่จะทำ แต่ตอนนี้นี่ทางผู้ใหญ่เค้ากำลังคุยกันอยู่ ทีนี้ปัญหามันก็คือว่า ถ้ารถโบราณจดได้ แล้วรถใหม่ทำไมจดไม่ได้ มันก็คือรถเหมือนกัน แล้วภาษีที่จ่ายก็จ่ายเท่ากัน มันก็เหลื่อมล้ำกันอยู่ มีการต่อรองกันอยู่ซึ่งมันก็เป็นปัญหา เพราะว่าคนที่เราไปคุยด้วยนี่นะ เค้าไม่ได้สนใจว่า พวกผมนี่ชอบรถหรือไม่ชอบ เค้ามองไปว่าถ้าเกิดสมมติรถโบราณจดได้ ถ้ารถทุกๆยี่ห้อนี่มายื่นจด แล้วอาจจะอ้างแบบผมนี่มันจะเกิดอะไรขึ้น มันก็เป็นรถมอเตอร์ไซด์เหมือนกัน นี่คือปัญหา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมหลีกเลี่ยงได้ หรือว่าช่วยเหลือกันได้ก็คือ การที่เจ้าหน้าที่เค้าอะลุ้มอะหล่วย แต่ก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนที่บอกเราต้องยึดรถนะก็ยังไม่มี ก็คือปัญหาของเราที่ตอนนี้ในเรื่องของรถโบราณ 90% รถไม่ถูกต้อง 90% เลยนะฮะรถไม่ถูกต้อง ทีนี้พวกเรานี่พอมีชมรมมีมูลนิธิขึ้นมานี่อย่างน้อยเลยมันก็ดีกว่าไม่มีอะไร ซึ่งผู้ใหญ่เค้ารับรู้มาตลอดก็เป็นสิ่งที่ดี แต่สุดท้ายเลยนี่ ปัญหาของคนโบราณนี่ซึ่งเป็นปัญหาหลักมันก็อยู่ของเรื่องทะเบียนรถ ถ้าคนไม่มาสัมผัสจะไม่รู้ เรื่องชีวิตความเป็นอยู่อะไรก็ดี สิ่งแวดล้อมอะไรก็ดีมันค่อนข้างที่จะลำบาก ถ้าคิดเป็นร้อยละ คนรถโบราณ 100% จะอยู่ระดับที่ดีเลยประมาณ 10% อีก 40% ปานกลาง อีก 50% ลงมานี่จะแย่ เพราะว่าผมสัมผัสกับพวกนี้มาเยอะ ถ้าย้อนกลับไปถึงสังคมรถใหม่นี่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะว่าผมเชื่อว่า 90% ของคนที่มีรถใหม่ ผมเชื่อว่าอาจจะมีใจชอบอยู่แล้ว แล้วประกอบกับเวลามีทุนนี่เราเดินเข้าไปตามดีลเลอร์ แน่นอนเลยเราไปซื้อได้ เพราะฉะนั้น 90% ของการมีกิจกรรมก็ดี หรือไปในที่สาธารณะต่างๆ ปัญหามันก็จะไม่เกิด ถูกมั้ยครับ พวกรถใหม่นี่ แน่นอนเลยคนที่ขี่ปัจจุบันนี้ ในเรื่องของถ้ามีปัญหากับเจ้าหน้าที่นี่ส่วนมากก็เป็นลูกหลานเจ้าหน้าที่ซะส่วนใหญ่ แต่ส่วนคนรถโบราณนี่มันไม่ใช่ มันเริ่มต้นมาจากคนขี่พวกฮอนด้าซี พอเติบโตขึ้นมามันก็มีวิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆ

 


เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่ ผมไปอธิบายให้ผู้ใหญ่ฟัง แล้วผู้ใหญ่เข้าใจ แต่ว่าทางผู้ใหญ่นี่เค้าก็ช่วยอะไรไม่ได้เต็มที่เพราะ มันไปขัดกับเรื่องของกฎหมาย มันก็เลยเกิดปัญหา แต่ในที่สุดแล้วนี่ ถ้าเราไม่ทำเราก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นการเจริญเติบโตของเรื่องรถโบราณมันถึงได้ช้า จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่คนที่อยู่กับผมเป็นอาสาสมัครทั้งนั้น เราส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่มีงานประจำที่ทำ แล้วก็รายได้ก็อยู่กลางๆ ไม่ได้สูงอะไร ปัญหาการเจริญเติบโตของกลุ่มหรือว่าอะไรมันก็เลยช้า แล้วสิ่งนึงที่มีปัญหาต่อไปก็คือคนที่ชอบของเก่านี่ ความเป็นตัวของตัวเองสูง แล้วถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายๆปีก่อนนี่ ลองไปคุยกับคนที่อาจจะอายุซักห้าสิบกว่าๆนี่ถ้าเค้าขี่ Harley นี่เค้าจะไม่ยุ่กับรถ BMW เลย คนขี่ BMW นี่เค้าก็จะไม่ยุ่งกับ Harley คนขี่รถอังกฤษนี่เค้าก็จะไม่ยุ่งกับสองค่ายนี้ คือจะแบ่งกันโดยชัดเจนเลย แต่ในปัจจุบันนี้พอเราเริ่มมาเป็นมูลนิธิ ผมก็ไปนั่งคุยให้เค้าเข้าใจ สิ่งนึงที่ผมบอกเค้าก็คือว่า คุณจะไม่ถูกกันมา สิบยี่สิบปีอะไรที่แล้วนี่ แต่ในปัจจุบันนี้เราได้เป็นมูลนิธิ เป็นมูลนิธิขึ้นมาหรือว่าเป็นองค์กรขึ้นมาแล้ว ตรงนี้บางทีถ้าในอนาคตนะครับมันอาจจะเยอะขึ้น เราก็อาจจะไปต่อรองกับรัฐบาลได้ เหมือนกับเมื่อหลายสิบปีก่อนที่เค้าเปิดขึ้นปืนเถื่อน ไม่ทราบว่าพอทราบหรือเปล่า มันก็จะเป็นลักษณะนั้น คือถ้าเรามีจำนวนเยอะนี่เรากดเครื่องคิดเลขให้เค้าดูว่ารถจำนวนนี้ถ้าเราเอาไปขึ้นทะเบียนจะได้เท่านี้ ทำ พ.ร.บ. รถยนต์จะได้เท่านี้ ถูกมั้ยครับ แล้วให้เค้าคำนวณดูว่ามันคุ้มมัยกับที่เค้าจะอภัยโทษให้พวกรถไม่มีทะเบียน อันนี้เราก็ได้ทำไปแล้วระดับนึง แต่ว่าจำนวนที่ทำนี่มันน้อยมาก เพราะว่าอย่างน้อยมันผ่านหลายขั้นตอนเกี่ยวกับเรื่องรัฐบาล มันผ่านหลายขั้นตอนมาก เพราะฉะนั้นนี่ปัญหาของรถโบราณนี่มันก็จะมีมาตลอด มีมาแล้วผมเชื่อว่ามันจะเรื้อรังมันจะไม่จบสิ้น นี่คือปัญหาหลักๆ ใหญ่
 

 

เสียดายนะครับ ถ้าเกิดขึ้นทะเบียนให้กลายเป็นรถแบบเพื่อการอนุรักษ์อะไรอย่างงี้ไปเลย แล้วก็เหมือนกับเฉพาะในกลุ่มที่เป็นรถในปีนี้ลงไป
ก็ใช่ฮะ ตอนนี้ก็ในส่วนนึงที่คนไปเป็นสมาชิกของผมนี่ก็ทำอยู่ ก็มีหนังสือออกไป แต่ว่ามันไม่ได้มีอะไรรับรองเป็นทางการ ก็แค่เวลาโดนจับนี่ผมก็ต้องวิ่งไป หอบเอกสารไป ว่าเออผู้ใหญ่เค้าเซ็นนะ มีใครคนนี้เป็นรถอยู่อย่างนี้จริง นี่คือปัญหาแล้วก็บางที ตัวผมคนเดียวซึ่งแน่นอนมันทำไม่ได้เราก็ต้องช่วยกันหลายคนแล้วสิ่งนึงที่มีปัญหามาก คนที่ขี่รถโบราณเค้าถึงไม่ได้ออกมาขี่ตามท้องถนน เพราะโดนจับไปมันไม่คุ้ม ซึ่งบางคันนี่มูลค่ามันสูงมากครับ แล้วเวลาโดนจับไปบางทีถ้าเราไม่มีพวกพ้องมันก็จะลำบาก นี่แหละฮะคือปัญหาของคนที่เล่นรถโบราณในปัจจุบันนี้ ถ้าเราขี่รถใหม่นะสังเกตดู เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยยุ่ง ถูกมั้ยครับ ไม่ค่อยยุ่งเพราะว่าบางทีมีการจับกุมแล้ว อาจจะโทรคุยรู้จักคนโน้นคนนี้มันเสียเวลาคนจับกุมเค้าด้วย แต่อย่างรถโบราณนี่ อาจจะเป็นพวก SR ก็ดี Vespa อะไรก็ดีอย่างงี้ มันก็จะมีปัญหาอยู่ตลอด คือปัจจัยหลายๆอย่างที่เราต่อสู้ แน่นอนมันไม่ใช่ว่าผมคนเดียวต้องร่วมกัน

 

 


ก็อย่างที่บอกปัญหามันก็ปัญหาเดิมๆ คือคนที่เป็นคนโบราณที่ความคิดใหม่นี่มันน้อยมาก บางทีตัวผมเองก็จริงนะครับไปขอความร่วมมืออะไรอย่างงี้บางทีเราไม่ได้รับความร่วมมือกลับมานี่ซึ่งบางทีเราก็อาจจะรู้สึกว่าเราต้องใช้เวลานาน แล้วไอ้การที่เราเสียเวลาไปนานๆ มันก็จะมีผลเสียกลับมา ในเรื่องของการต่อรอง ในเรื่องของผู้ใหญ่ก็ต้องมารอ บางคนไม่เข้าใจ คือบางทีผมถึงขนาดไปนั่งคุยนี่บางคนกลัวว่าถ้าอยู่ในมูลนิธิแล้วนี่ขึ้นทะเบียนกับมูลนิธิแล้วกลัวว่าผู้ใหญ่จะเอารถไปอะไรอย่างงี้ ซึ่งเรารู้สึกว่าเรื่องอย่างงี้ไม่สมควรคิด แต่ถามว่าเค้าผิดรึเปล่าคงไม่มีใครผิด เพราะว่าทุกคนก็ต้องกลัวถูกมั้ยฮะ แต่สามปีที่ผมทำมามันก็เริ่มมีอะไรที่ดีขึ้น มีอะไรที่ดีขึ้นๆๆ เพราะว่าการที่เราไปออกงานตามที่ต่างๆ ซึ่งเค้าต้องการของที่เป็นโบราณ แล้วก็ได้เชิญไปในชมรมต่างๆ หรือว่ากลุ่มต่างๆบ่อยๆ อย่างตอนนี้ก็ไปที่สยามพารากอนไม่ใช่สยามพารากอนไปมาแล้ว ซีคอนอะไรนี่ ซีคอนก็ส่งรถโบราณไป แล้วก็ที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ก็เชิญผ่านมูลนิธิเราก็ส่งรถไป คือใครอยู่ใกล้ก็ไปเลย ใครอยู่ใกล้ใครสะดวกช่วยกัน มันก็เป็นงานอย่างงี้ซะมากกว่า


มูลนิธิเริ่มมาก่อตั้งมาได้กี่ปีแล้วครับ
ประมาณสามปีเศษๆ ก็คือผมรู้จักกับ น.อ. ก็นานมากก็สิบกว่าปีแล้ว ทีนี้แกก็บอกว่า ทำไมไม่ตั้งเป็นชมรมหรือมูลนิธิอะไรให้มันเป็นกิจลักษณะ เผื่อมีอะไรขึ้นมาแกจะได้ช่วยได้ ถ้าต่างคนต่างขี่อย่างงี้ เวลามีปัญหาอะไรขึ้นมามันก็ไม่มีที่อ้างอิงว่า ไอ้โน่นไอ้นี่ใช่มั้ยฮะ แกก็บอกไปตั้งชมรมอะไรมา ไปทำมาแบบนี้ แบบนี้นะ ผมก็ทำมาตอนนี้อยู่ภายใต้มูลนิธิ อนุรักษ์และพัฒนาอากาศยานไทย ผมอยู่ใต้แกอีกที เมื่อปีที่แล้วนี่แกให้ไปจดทะเบียนเป็นสมาคมรถโบราณ ทีนี้ตัวผมเองนี่ผมบอกตรงๆว่า ผมยังไม่พร้อม แล้วผมก็ไปหาคนที่เค้าพร้อม คือไปหาคนที่เค้าพร้อมแล้วเราก็ต้องผิดหวัง เพราะว่าในความคิดของผมว่าคนเหล่านี้เค้าคิดว่าเค้าอยู่สบายอยู่แล้ว ซึ่งเค้ามีทุกอย่างแล้วถ้าเค้าไปรับตรงนี้เข้ามานี่ มันก็จะเป็นแบบนี้ฮะ งานศพ งานแต่ง งานบวช งานกลุ่มอะไรนี่ก็เหมือนอย่างผมที่ปัจจุบันนี่เค้าก็จะโทรเข้ามาให้เราไปตลอด ทีนี้บางคนซึ่งเค้าผ่านจุดตรงนี้มา เค้าก็อาจจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่เค้าจะไปทำหรือมันไม่ใช่เรื่องที่อย่างเราสองคนนี่ต้องมาคุยกับผม มันเป็นเรื่องเสียเวลาถูกมั้ยครับ อันนี้มันเป็นเรื่องมุมมองของเค้า เท่าที่ผมมองสายตาเค้า แต่ถามว่าเค้าชอบรึเปล่า เค้าก็ชอบนะครับ แล้วคนที่ผมไปคุยนี่ผมเชื่อว่าถ้าเรามองลึกๆไปข้างหลังเค้าเลยเรื่องฐานะ เรื่องวาสนาบารมีอะไรนี่ ซึ่งเค้าพร้อมมาก แต่สิ่งที่เค้าปฏิเสธเรานี่เรารู้สึกว่า เค้าไม่ได้ผิดนะแต่ว่าเค้าอาจจะคิดฉีกไปอีกมุมนึง เวลาที่เราจะไปงานต่างๆซึ่งเราไม่รู้จักเลยนี่มันก็เป็นเรื่องที่ลำบาก

 

แต่ว่าในส่วนของผมนี่ผมได้ชี้แจงเค้าไปแล้วว่าเวลาคนเชิญมานี่ เค้าจะเชิญมาในนามมูลนิธิในนามชมรม ซึ่งถ้าทำแล้วนี่ผมถือว่ามันเป็นหน้าที่นะ มันไม่ได้เป็นการโชว์ออฟถูกมั้ยครับ เป็นการที่เราไปทำหน้าที่ เพราะผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่เค้าโทรมาคุยกับเราหรืออยากมาคุยกับเรานี่ ผมเชื่อว่าทุกคน เค้าไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองหรอกครับ แต่สิ่งนึงที่เค้าต้องการ เค้าต้องการที่จะอยากรู้ความรู้สึกเราว่า เรารู้สึกอะไรกะเค้า ซึ่งเราไปหาเค้าเรามีการพูดคุยอะไรที่ดีนี่ผมเชื่อว่าคนทุกคนถ้าเราคุยกันรู้เรื่องเค้าก็จะได้รับสิ่งที่ดีๆกลับไป เพราะฉะนั้นผมก็คุยกับ น.อ. แกก็บอกผมทำได้ แต่บอกพี่ผมทำไม่ได้ เพราะว่าการที่เป็นสมาคมนี่ โอ้โฮ เค้าเอาเอกสารมาให้ผมดูมันเยอะมากครับ มันต้องมี วุ่นวายอะพูดง่ายๆ ผมก็อ่านดูคร่าวๆผมก็บอกแกว่าไม่ได้ ทั้งๆที่ร่างไว้หมดแล้ว ผมเข้าไปนี่เพื่อที่หาคณะกรรมการเข้าไปเซ็น แต่สิ่งนึงนี่ที่พี่เค้าไม่เข้าใจเพราะว่า สิ่งที่ตามมาข้างหลังนี่ ผมก็บอกคนระดับพี่พี่ต้องเข้าใจ พี่พูดอะไรก็ได้ แต่วันนึงถ้าพี่ไม่อยู่ ถูกมั้ยครับ วันนึงที่พี่ไม่อยู่แล้ววันนึงถ้าผมเดินไปคนเดียวนี่ความรู้สึกของคนนี่มันต่างกันนะครับผมบอกให้เลย

 

เหนื่อยนะเนี่ย
มันเหนื่อย ถ้าเราเดินไปกับคนที่ระดับอย่างนี้ ถ้าเราเดินไปกับคนอย่าง น.อ. ความรู้สึกของคนเค้าจะไปอีกอย่างนึง แต่ถ้าอยู่ๆผมเดินไปคนเดียวอย่างงี้มันไม่ได้ฮะ คือบางทีคนนี่หมายถึงว่าอย่าง น.อ. ซึ่งปัญหาล่างๆ เค้าอาจจะไม่ได้เคยรับรู้ แต่ผมนี่สัมผัสได้ไงฮะเพราะว่าการที่เป็นสมาคมนี่มันมีปัญหาอะไรหลายๆอย่างที่เข้ามา ซึ่งแกพูดง่ายไงฮะ เฮ้ยแกบอกนี่แต๊วพี่จดทะเบียนกับกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา สมาคมนี้ซึ่งแกร่างไว้เรียบร้อย ตรงนี้ที่ผมต้องชี้แจงให้แกเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องอะไรที่ทำง่ายๆ ผมไม่ได้มีชื่อเสียงในสังคม ผมไม่ได้มีคล้ายๆว่า ยศ หน้าที่หรือตำแหน่งการงานอะไรที่ดี เพราะฉะนั้น เวลาพี่พูดนี่พี่พูดง่าย แต่เวลาผมปฏิบัตินี่ซึ่งมันยาก อันนี้คือข้อเท็จจริงแกก็เริ่มเข้าใจ แต่ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะครับ ผมก็ไปหาคนที่เค้าพร้อมจะรับ แต่ทุกคนก็ปฏิเสธ คือพอทุกคนปฏิเสธแล้วนี่ ผมก็ไปบอกแก แกก็เริ่มเข้าใจนะครับ เป็นสมาคมนี่มันก็ถ้าเราเป็นแล้วเราปล่อยไปอย่างงั้น ผมว่าอย่าไปทำดีกว่า ถูกมั้ยครับถ้าเราปล่อยไปวันๆนึงมีแต่ชื่อสมาคมรถจักรยานยนต์โบราณแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์อะไรอย่างงี้ ถ้าเราทำแล้วเราไม่ได้ทำอะไรเลยซักอย่างผมว่าอยู่เฉยๆอย่างงี้ดีกว่า แต่ถ้าเกิดเราลองทำแล้ว เราก็จะด้องทำให้ดีที่สุดในตัวเรา ในตัวของผมนะครับไม่ใช่ว่าไปเทียบกับที่อื่น แกก็เริ่มจะเข้าใจบางเรื่องบางอย่างนี่ บางทีผมลองบอกแกเลยนะฮะเอาอย่างงี้ดีกว่าพี่ไม่ต้องไปกับผม เดี๋ยวผมไปแล้วเดี๋ยวผมจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้น แกก็เริ่มเข้าใจแล้ว บอกพี่เวลาผมไปกับพี่นี่แม่งสะดวก เวลาผมไปคนเดียวนี่ บางทีไปนั่งรอครึ่งวัน เรื่องมันก็ยังอยู่ที่เดิมตรงนี้พี่ต้องเข้าใจว่าเป็นจริง เพราะฉะนั้นผมถึงบอกฮะ แกก็เริ่มเข้าใจ เริ่มเข้าใจละ สิ่งนึงนี่ที่เราพยายามต่อสู้นะฮะ เรายิ่งต่อสู้เท่าไหร่นี่บางครั้งจะสังเกตได้ง่ายๆว่าปัญหามันก็ตามมาเรื่อยๆ แม้กระทั่งรถใหม่นี่ผมก็ยังเชื่อว่ามีปัญหา ถูกมั้ยฮะ ปัญหาอะไรหลายอย่าง ปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นนี่ในส่วนรถโบราณก็ดีผมก็พยายามที่จะแก้ไข ปัญหาแรกเลยคือเรื่องของความเข้าใจ ต้องแก้ไขเรื่องของความเข้าใจ พอเราได้เรียนรู้ คน ความเข้าใจมีอะไรตอนนี้ก็สบายละคุยกันง่ายรู้เรื่อง

 

 

ช่วงหลังมาสมาชิกเก่าๆ ที่เคยขี่กันสมัยแยกกลุ่มก็เริ่มเข้ามาด้วยแล้ว
ครับก็เริ่มเข้ามาครับ เพราะว่าสิ่งที่เค้าเห็นมูลนิธิทำหรือชมรมทำนี่นะครับ มันเหมือนกับ ผมยกตัวอย่างงานที่พารากอน ผมจะไม่ได้เอาเฉพาะพวกผมนะฮะ ผมก็จะแสดงให้เค้าเห็นว่าเออ รถทุกค่ายนี่ อย่างเช่นเค้าบอกว่าต้องการรถร้อยคัน ผมก็จะบอกเลยรถตระกูลญี่ปุ่นยี่สิบ อังกฤษยี่สิบ เยอรมันยี่สิบ อเมริกันยี่สิบ อิตาลียี่สิบ มาเลย ใครเป็นเฮดที่ของอิตาลี โทรไปเลย เค้าต้องการยี่สิบนะถ้าไม่ถึงโทรมาบอก พอไม่ถึงเราก็จะแจ้งฝ่ายค้นหา เอาจำนวนที่เค้าต้องการ จำนวนค่ายรถที่เค้าอยากได้ เราต้องทำให้เค้า ซึ่งตรงนี้มัน ผมยังเชื่ออยู่อย่างนึงว่า มันก็เป็นสิ่งอะไรที่ดีแล้วนะฮะ ที่เราสามารถเรียกรถหลายๆค่ายนี่มารวมกันแล้วมาจอดที่เดียวกัน ซึ่งสมัยก่อนมันไม่ แต่ในปัจจุบันนี้ผมก็ไม่ได้บอกว่าร้อยเปอร์เซนต์นะครับ แต่ว่าสิ่งนึงที่มันเริ่มจะขับเคลื่อนไปในทางที่ดี มันก็สื่อให้ผมเห็นแล้ว หรือว่าสื่อให้ทางผู้หลักผู้ใหญ่เห็นแล้วว่า มันไม่ได้ฉีกค่ายเหมือนเมื่อก่อน ว่าถ้าใครขี่อะไรนี่ก็จะต้องเป็นแบบนั้น

 

แล้วอย่างงานปาร์ตี้ที่ผ่านมาของทาง วินเทจไบค์ ไทยแลนด์จัดนี่นะฮะ รู้สึกปีนี้เป็นปีที่สามที่จะจัด แล้วคนที่มาเข้าร่วมส่วนใหญ่จะเป็นคนกลุ่มรถโบราณเก่าหรือว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาด้วย
ก็ส่วนใหญ่ก็มีเด็กใหม่เข้ามาด้วยฮะ ก็แล้วแต่ จริงๆจัดงานนี่ใช้ชื่อวินเทจใช่มั้ยครับแต่ว่ารถใหม่หรือรถเก่าอะไรเราก็ไม่ได้จำกัดอะไร อย่างปีนี้นี่จัดที่นครนายก แต่เปลี่ยนไม่ใช่ที่ สนามบิน คืออย่างสนามบินนี่ระบบสาธารณูปโภคมันไม่ดี ปีนี้จัดที่นครนายก เจ้าของรีสอร์ทเค้าก็ดีนะครับ เค้าก็โทรมาหาผมให้ไปจัดฟรี เพราะว่าเค้าก็รู้ว่าจัดงานนี่หมายถึงว่าเราไม่ได้จัดให้ใคร จัดไปก็ถวายให้ในหลวง

 



แล้วปีนี้รูปแบบงานจะเป็นยังไงครับ พี่แพลนคร่าวๆ ไว้ว่าจะทำอะไรยังไงบ้าง
เรื่องการจัดงานนี่ก็มีเหมือนธรรมดาฮะ มีเหมือนทั่วๆไป ปีนี้ก็มีเลี้ยงอาหารมื้อค่ำหนึ่งมื้อแล้วก็มื้อเช้าหนึ่งมื้อ คนที่ไปก็ไปกางเต้นท์นอนอะไรกัน คือคนโบราณนี่นะฮะ คนที่ขี่รถโบราณนี่ สิ่งที่ดีนี่แล้วคล้ายๆกันก็คือ เป็นคนที่เรียบง่าย แล้วก็ความเป็นอยู่อะไรอย่างงี้ไม่พิถีพิถัน เพราะฉะนั้นเรื่องที่พักที่อะไรนี่ค่อนข้างที่จะสบาย ทุกคนไปก็พกเต้นท์ไปเลย ไปถึงก็กางเต้นท์นอนอะไรอย่างงี้ งานก็ไม่ได้มีอะไรยิ่งใหญ่มาก ธรรมดา ปกติ


ปีนี้จัดวันที่เท่าไหร่ครับ
วันที่ 6-7 ธันวา ครับ

 

 

 

 

 

 

 


 

 

ความรู้สึกระหว่างรถใหม่กับรถโบราณ
อย่างรถโบราณนี่ติดแล้วยิ่งกว่ายาเสพติดอีก คือบางทีมันติดแล้วมันเลิกไม่ได้ อย่างผมนี่อดทนอย่างภรรยาเค้าไม่รู้เรื่องรถนี่ ไม่รู้เรื่องรถไม่รู้เรื่องอะไรบางทีเราก็ต้อง โกหก ทำเสร็จก็ต้องไปจอดไว้ที่บ้านลูกศิษย์บ้าง บ้านเพื่อนบ้าง คือบางทีเหมือนโกหกเราก็สบายใจเราไม่อยาก วันนึงเราก็ต้องบอก นี่ผมก็ อย่างคันนี้ผมทำ ผมบอกเค้าว่าห้าหมื่นบาท คือแฟนผมนี่เค้าก็ไปกับพวกรถโบราณพอสมควร

 

ไม่ระแคะระคาย
ไม่ฮะ ผมก็บอกว่าเออผมก็อยากได้รถมั่งอะไรอย่างงี้ แล้วเค้าก็ไปคุยกับอ้น เค้าก็ต่อรอง แต่อ้นเค้าก็รู้กันกับผม บอกอ้นถ้าเมียโทรไปถามบอกหกหมื่นนะ เดี๋ยวเมียกูต่อแน่เลยก็โทร เค้าก็โทรไปหาอ้นก็คุยกัน คือผมว่ามันอธิบายไม่ถูกนะ คืออันนี้เราคนฮาร์เล่ย์ด้วยกันมันเป็นอะไรที่แบบอธิบายไม่ถูก มันอธิบายไม่ได้ว่าทำไมเราถึงชอบแล้วไม่เลิกราซะที อย่างไอ้เก่งนี่ผมรู้จักมันมาตั้งแต่มันเป็นวัยรุ่นอะ จนแบบผมก็มีอย่างงี้อะ ก็ยังเลิกไม่ได้ฮะ เราก็ต้องแบบ พยายามหาเข้ามาอะไรที่อยากได้ก็ต้องทำทุกวิถีทางที่แบบเพื่อที่เราจะได้




คนเล่นรถเก่านี่จำเป็นว่าต้องรู้เรื่องซ่อม
ผมนี่พอรู้เรื่องซ่อม แต่ผมซ่อมไม่ได้ มันไม่ใช่งานของเราที่เราถนัด สิ่งนึงนี่ที่ผมทำรถได้เพราะว่า พาร์ทนี่ส่วนมากผมจะศึกษามาก่อนนาน หมายถึงว่าอยู่กับอะไรนานๆนี่ เราก็จะรู้แล้วว่าอะไรมันคืออะไร แต่ถ้าเอารถ Evo มาตั้งก็ งง เหมือนกัน คือระบบเดี๋ยวนี้ มันไปถึงแบบพวกหัวฉีด ซีซี มันก็เพิ่มมากขึ้นอะไรอย่างงี้ อันนี้แน่นอนเราไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นรถโบราณในปีในรุ่นที่เราชอบเราก็ต้องศึกษา ถ้าแบบเล่นไม่เลิกวันนึงผมเชื่อว่าถ้าเป็นไปได้นี่วันนึงมันต้องย้อนกลับมาอย่างนี้แล้วขี่นี่มันเป็นอะไรที่ท้าทายเอาเท้าเขี่ยมือเร่งไฟถูกมั้ยครับ เร่งน้ำมันแล้วข้างนี้ก็ต้องพอรถจะรอเลี้ยว ขับเร่งมาอย่างงี้รถจะรอเลี้ยวก็ต้องผ่อน ถ้ารถสภาพไม่ดีนะฮะถ้าเราผ่อนมากนี่เครื่องก็น๊อค เราก็ต้องคือกะระยะว่ารอบไฟแกนนี่ให้มันได้เท่าไหน แต่ว่าถ้าเกิดเครื่องสมบูรณ์นี่ เราก็ดันมาอย่างงี้สุดได้ แตรเตออะไรก็ใช้งานได้ปกติ หัวเกียร์นี่ผมซื้อมาแพงมากนะครับแต่ว่าเมื่อปี 1937 นี่ ราคาห้าเซนต์ อย่างเบาะนี่ที่ผมได้มานี่นะ คนเล่นฮาร์เล่ย์บางคนนี่ไม่รู้นะฮะว่าฮาร์เล่ย์มีเบาะเบิ้ลอย่างงี้ แล้วพวกนี้ก็ใช้งานได้จริง นั่งไปก็สบาย

 

 







 

 

สำหรับคนที่อยากเข้ามาเล่นรถโบราณบ้าง
ถ้าไม่ใช่ทางของเรานะผมว่าอย่าพึ่งดีกว่า ผมอยากจะให้ใช้เวลาที่มีอยู่นี่ สิ่งที่สำคัญสำหรับผมนี่ก็คือศึกษาคน รถนี่สำคัญที่สุด คนนี่ผมถามว่าคนสำคัญยังไงเวลาเราไปพูดคุยนี่บางที คนที่พูดคุยกับเรานี่เราจะรู้ รู้ลึกๆถึงเจตนาของเค้า เพราะฉะนั้นนี่ถ้าเราไปพูดคุยกับคนที่ค้าขายก็จะไปอีกแบบนึง พูดคุยกับคนที่เค้ามีความรู้สึกชื่นชอบหรืออยากจะให้เราเป็นแบบเค้า หรือว่าเราอยากเป็นเหมือนเค้า เค้าอยากเป็นเหมือนเรามันก็จะอีกอย่างนึง แต่ถ้าถามผมนี่ผมว่าน่าจะไปตามหาช่างให้เจอก่อน ก่อนที่จะมาทำแบบนี้ได้สิ่งที่สำคัญเราต้องตามหาช่าง แล้วก็สิ่งที่สำคัญตามมาคือเราก็ต้องถามตัวเราว่ารถถ้าขี่แบบนี้มันไปพัง แล้วเราจะรับได้มากน้อยขนาดไหน แต่ผมยังเชื่ออยู่อย่างนึงว่าถ้า ทำมาถึงขนาดนี้สตาร์ทง่ายสมรรถนะได้นี่ผมว่า ถ้าเราขี่ในขอบเขตของมันนะผมเชื่อว่าพังยากผมยังเชื่ออย่างงั้นนะฮะ แต่ว่าถ้าเกิดว่ารถสมรรถนะแบบนี้ถ้าเราไปขี่กับพวก Evo อะไรอย่างงี้ มันก็ควรที่จะไม่ไปเพราะว่ามันไม่เหมาะสม มันก็จะตามได้แค่ไม่กี่นาที สปีดมันนะฮะอาจจะซักสิบห้านาที หลังจากสิบห้านาทีไปแล้วนี่ผมว่าเครื่องแม่งพัง เพราะว่าการดีไซน์ของมันจะอยู่ที่เท่านี้ ถูกมั้ยครับ แล้วระบบเรื่องความร้อนอะไรนี่ พวกนี้มันร้อนมากเลยฮะ ขี่ไปแค่กิโลเศษๆนี่กลับมาร้อน มันก็อย่างที่บอกถ้ามา ถามว่าผมชอบมั้ยยิ่งคนชอบรถเก่านี่ผมชอบ แต่ว่าสิ่งนึงที่อยากจะบอกก็คือเราต้องหาช่าง หาช่างให้ได้ พอหาช่างให้ได้แล้วก็ต้องศึกษาในรุ่นของปี รุ่นของรถ คือถ้าเกิดเราเห็นเค้ามีแล้วเรามีมั่งนี่ปัญหามันจะตามมาแน่นอน ถึงเราได้รถสภาพดีไปนี่ ถ้าเราไม่รู้จักช่างนี่การ maintenance ปัญหามันจะเกิดตามมา ถูกมั้ยครับเพราะว่ามันก็เหมือนหมออะฮะ หมอแผนปัจจุบันกับหมอแผนโบราณการรักษามันก็จะต่างกันไป แล้วถ้าเราไปเจอหมอที่ไม่เข้าใจเรื่องวินิจฉัยไข้ไม่ถูก ตีเป็นสะเปะสะปะเลย รถดังเดี๋ยวไปดูที่โน่นที่นี่รื้อแล้วก็เสียหายเยอะ เพราะอย่างที่บอกที่ว่ารถนี่ ถ้าน้ำมันรั่วเราก็ต้องดูว่ามันรั่วมาจากตรงไหน เราควรจะแก้ไขปัญหาที่ตรงไหน ประเก็นนี่ไม่เคยสั่งจากต่างประเทศนะฮะ ประเก็นนี่ไม่ใช่ยี่ห้อฮาร์เล่ย์เดวิดสันเลย ประเก็นนี่อ้นเค้าตัดเอง แต่ด้วยความที่เค้าชำนาญเค้าก็จะรู้ว่าประเก็นนี่ ประเก็นเสื้อสูบ ใช้เบอร์อะไร เค้าจะอธิบายให้เราฟังเป็นขั้นตอนแต่ผมไม่ใช่ช่าง ผมก็รับรู้ในจุดนึงว่าเออสิ่งที่เค้าบอกเรานี่ความเป็นไปได้นี่มันจริงนะ ถูกมั้ยครับ แล้วก็เค้าก็ทำให้เราเห็น แบบนี้ๆ

 

 

บ่ายวันนั้น หลังจากนั่งคุยกับพี่แต๊ว และได้มีโอกาสสัมผัสกับ Harley-Davidson ULH ยิ่งมีโอกาสได้นั่งรถปี 1937 วิ่งออกถนนในปี 2008 ได้รู้สึกถึงขุมพลังของยุคสมัยที่ผ่านพ้นไป เสียงเครื่องยนต์ Flathead ที่ยังคงก้องอยู่ในหูเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างจากเครื่องยนต์ Evo ที่คุ้นเคย ได้รับรู้ถึงวงการรถโบราณที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากสังคมผู้ใช้รถใหม่อยู่บ้าง แต่ก็ยังคงไว้ด้วยความรู้สึกของผู้ใช้รถสองล้อเหมือนกันที่พร้อมจะมอบมิตรภาพให้แก่กันทุกครั้งที่ได้พบปะพูดคุยในสถานที่ต่างๆ ความสามัคคีและความพยายามที่จะผลักดันและพัฒนาแวดวงรถโบราณของชมรมอนุรักษ์และพัฒนาจักรยานยนต์โบราณไทยเพื่อที่จะทำให้กลุ่มผู้ใช้รถโบราณได้ออกเดินทางท่องเที่ยวพรัอมกับรถที่ตนรักอย่างไม่ต้องกังวลถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
สุดท้ายนี้ HDP ต้องขอขอบคุณพี่แต๊ว ที่พานั่ง ULH ออกถนนรามอินทรา พร้อมกับกดไซเรนซะเหมือนกับกำลังวิ่งหลบระเบิดในหนังครับ และต้องขอขอบคุณพี่นพ ที่ช่วยแนะนำให้ได้รู้จักกับพี่แต๊ว ด้วยครับ

เพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจในรถโบราณ สามารถแวะเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ ในเว็บ Vintage Bike Thailand ได้เลยครับ


Share   Like
Comments