|
ถ้าพูดถึงย่าน RCA แล้ว นอกจากจะเป็นแหล่งบันเทิงในยามค่ำคืน ที่เคยโด่งดังจนถึงขีดสุด แล้วก็ร่วงโรยจนแทบจะกลายเป็นถนนร้าง จนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในปัจจุบัน แต่นอกเหนือจากที่เที่ยวยามค่ำคืนแล้ว ถนนสายนี้ยังเป็นแหล่งรวม Show Room รถมอเตอร์ไซค์หลายร้าน อาจจะเป็นเพราะทำเลที่เข้าออกสะดวก มีถนนวิ่งตัดผ่านกลางสามารถขับขี่เข้ามาจอดได้ที่หน้าร้าน จนทำให้แบรนด์มอเตอร์ไซค์หลายแบรนด์ และร้านหลายร้านเข้ามาจับจองพื้นที่ในบริเวณนี้ บ้างก็ปิดไปแล้ว บ้างก็เพิ่งเริ่มต้นเปิดขึ้นมาใหม่ แต่วันนี้ HDP จะพาเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน แวะมาเยี่ยมชมร้าน Harley อีกหนึ่งร้าน ที่เพิ่งจะปรับเปลี่ยนโฉมล่าสุด เพื่อให้สามารถบริการทุกท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ร้าน PHD @ RCA หรือร้านของ พี่ป๊อก HD พี่ชายใจดีที่คอยให้การสนับสนุนกิจกรรมของชาวมอเตอร์ไซค์มาโดยตลอดครับ
สถานที่ตั้งร้าน PHD ในบริเวณย่าน RCA
พี่ป๊อก และสมาชิกของร้าน PHD
HDP: พี่ป๊อก ปรับปรุงร้านใหม่เป็นยังไงบ้างครับ
P' ป๊อก: ก็แบ่งเป็น 3 โซนครับ มีส่วนของโชว์รูม ขายรถ ขายอุปกรณ์ตกแ ต่ง ส่วนตรงนี้ (ช่วงกลาง) ก็เป็นส่วนของออฟฟิศสำนักงานครับ แล้วก็ส่วนสุดท้าย ก็เป็นส่วนซ่อมบำรุง
HDP: ช่วงนี้เน้นรถยี่ห้อไหน
P' ป๊อก: เน้น Harley ครับ ก็จะเล่นตั้งแต่ปี 2003 ขึ้นไป เป็นปีใหม่ๆ ซะมากกว่า
HDP: แล้วรถที่นำเข้ามา สภาพเป็นยังไงบ้างครับ
P' ป๊อก: ของพี่เน้นรถสภาพดีครับ เรามีคนของเราที่คอยซื้ออยู่ที่นู่น เพราะฉะนั้นเราก็ต้องให้คนไปดูก่อน ดูว่ามันตรงตามนั้นมั้ย ดูเลขคอ ดูสภาพรถ ดูอะไรต่างๆ เสร็จแล้วถึงจะซื้อ ช่วงนี้ก็จะเป็นรถจากทางฝั่ง USA ซะส่วนมาก
HDP: สภาพทาง US ผมว่าดีกว่านะ
P' ป๊อก: มันแล้วแต่เลือกนะ รถมันมีทุกสภาพอยู่ทุกที่ รถวิ่งน้อยมันก็โอเค แต่อเมริกาส่วนหนึ่งเนี่ย ที่มันมีปัญหาคือรถวิ่งเยอะๆ เราไม่รู้คนอื่นเขาทำยังไงนะ รถวิ่งเยอะ มันก็ตามสภาพ คือราคามันก็ถูกตามนั้น
HDP: อเมริกามันเหมือนกับมีที่วิ่งเยอะกว่า
P' ป๊อก: มันยาวไง ญี่ปุ่นลองไปขี่ดูจริงๆ ติดเขาติดอะไร ขี่วนอยู่ไม่เท่าไหร่ 100 – 200 โลก็เหนื่อยละ เลยกลายเป็นทาง อเมริกา จะวิ่งเยอะกว่า
HDP: แล้วพวกรถ Custom Bike นี่ พี่ป๊อกยังมีทำขึ้นมาบ้างมั้ยครับ
P' ป๊อก: ก็พอมีลูกค้าเอามาให้ทำบ้าง แต่ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตลาดบ้านเรา ตรงนี้มันยังไม่ค่อยโตเท่าไหร่ แต่คิดว่าในอนาคตอันใกล้ น่าจะมีกลุ่มลูกค้าที่เยอะขึ้น เทียบดูแล้วจากเมื่อ 2 ปีก่อน ตลาดมันก็ไม่ได้แผ่วลงไป ผมว่า มันน่าจะอยู่ที่เดิม น่าจะเป็นเพราะลักษณะการขี่มากกว่า ลักษณะการขี่ในกลุ่มที่มีอยู่ปัจจุบันเนี่ย มักจะไปไกลกัน เน้น Touring เน้นเที่ยว เน้นอะไรไกลๆ แล้วก็ คนส่วนใหญ่ยังมีรถหนึ่งคันอยู่ สักพักพอคนเริ่มเบื่อๆ Touring แล้ว อย่างเชียงใหม่ อาจจะไม่ไปแล้ว เบื่อ ไปมาหมดแล้วอะไรอย่างนี้ อาจจะขี่ในกรุงเทพ อ่ะเก็บ Touring ไว้คันหนึ่ง กับอาจจะหารถเล็กๆ อีกสักคันหนึ่งเอามาแต่งเป็นแนวตัวเอง
HDP: ซึ่งบริการแต่งรถ พวก Custom Bike พี่ป๊อกก็ทำอยู่แล้ว
P' ป๊อก: ทำอยู่ครับ ที่จริงแล้วเราทำได้หมดนะ ทางช่างผมเนี่ยเขาก็มีประสบการณ์ทาง Custom มา ทำเฟรมเองก็ยังได้ แต่มันก็แล้วแต่ลูกค้าเลือกว่าเขาชอบแนวไหน บางอย่างของเขามีอยู่แล้ว อย่างเช่นบางคนชอบแนว Jessie James แนว West Coast อย่างเนี้ย เขาอาจจะซื้อเฟรมมา ซื้อเครื่องมา ส่วนประกอบอื่นๆ เราก็ทำเองก็ได้
HDP: ช่างคนนี้ เขาทำพวกชิ้นงานเองก็ได้
P' ป๊อก: ได้ ทำได้ แต่เรื่องเครื่องมือบ้านเรา ก็อาจจะยังไม่เนี๊ยบ เพราะว่ามันต้องใช้เครื่องมือที่ดี ผลงานถึงจะออกมาดี ถ้าจะให้เอาเครื่อง CNC มาลงเลย ก็คงไม่ไหวครับ
HDP: แนว Custom Bike ที่เมื่อก่อนนี้ช่วงหนึ่งมัน Bobber กันหมดเลย แล้วตอนนี้พี่ป๊อกมองว่ามันเปลี่ยนไปมั้ยครับ
P' ป๊อก: ผมก็มองว่ายังเป็นแนว Old School ยังมีอยู่นะ ก็มีความหลากหลายขึ้น คือบางคนไม่อยากเหมือนใคร พยายามทำแนวของตัวเองให้ออกมา แต่ก็ยังเหลือกลิ่นอายของตรงนั้นอยู่
HDP: คือยังไงสไตล์ที่เป็น Old School ดูแบบเก๋าๆ มันก็ยังอินอยู่ อย่างในสมัยที่เน้น Chopper, Pro Street เดี๋ยวนี้หาดูไม่ค่อยมีเลย
P' ป๊อก: ไม่มีเลย หาดูแล้วมันน้อยอย่างแนว West Coast Chopper ก็ไม่ค่อยเห็น
HDP: ช่วงที่ผ่านมาได้ยินว่าพี่ป๊อกมีทำ "อบรมขับขี่ปลอดภัย" เป็นอย่างไรบ้างครับ
P' ป๊อก: ของทางผมก็จะพยายามแนะนำลูกค้า คนที่ใหม่ๆ นะครับ ที่มาซื้อรถของทางเรา เราจะพยายามแนะนำให้อย่างน้อยต้องได้เข้าสนามบ้าง เพื่อเป็นการฝึกฝนตนเอง ฝึกฝนในเรื่องทักษะในการขี่ เพราะว่าสมัยนี้จะเห็นว่าช่วงหลัง ๆ เนี่ยอาจจะเป็นเพราะว่ารถมันเยอะขึ้นหรือว่ายังไงก็ไม่รู้ หรือว่าคนใหม่ อะไรก็ตาม ก็เกิดอุบัติเหตุในเรื่องของ Harley ค่อนข้างจะบ่อยตามข่าวตามอะไรอย่างเนี้ย พอซื้อรถจากเรา เราก็พยายามแนะนำให้เขาไปเรียนขับขี่อย่างน้อยเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เพราะว่ารถ Harley กับรถเล็กทั่วๆ ไป มันไม่เหมือนกัน บางคนขี่รถเล็กๆ มาเนี่ย แล้วก็นึกว่า เอ๊ะ มันน่าจะขี่ได้ แต่จับดูแล้ว ทั้งน้ำหนัก ทั้งต่างๆ ไม่เหมือนกันเลย
HDP: แล้วคนที่มาเข้าร่วม Safety Riding เป็นยังไงบ้างครับ มีเยอะมั้ย แล้วการตอบรับเป็นยังไงบ้าง
P' ป๊อก: ที่ผ่านๆ มาเนี่ย ตอนผมจัดยังมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ เพราะว่าคนยังเหมือนกับให้ความสนใจน้อยอยู่ แต่พยายามจัดอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าที่ซื้อรถกับทางเรา แต่ก็ไม่ได้จำกัดนะครับ ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้หมด
HDP: พอเทรนเสร็จ พี่ป๊อกก็มีการจัดทริปด้วย
P' ป๊อก: ใช่ครับ แต่ช่วงนี้ก็ขาดไปนานอยู่เหมือนกัน คิดว่าเดี๋ยวให้ฝนซาๆ สักนิดหนึ่ง ก็จะจัดกันใหม่ เอาใกล้ ๆ ก่อน ให้เขาฝึกตัวเอง ได้ทดลองขี่จริงๆ ส่วนมากก็นัดเจอที่ร้าน แล้วก็พาไปทานข้าว ไปขี่ในบรรยากาศที่แปลกๆ อะไรอย่างเนี้ยนะ หาโค้งหาอะไรให้ลูกค้าลองเล่นดู ก็ประมาณนี้ ซึ่งเวลาออกทริปก็จะมีรถ Service คอยตามอยู่ตลอดครับ
HDP: จำเป็นต้องเป็นลูกค้า PHD ไหมครับ ถึงจะร่วมทริปได้
P' ป๊อก: ไม่จำเป็นครับ ใครก็ได้ คือบางคน คนใหม่ๆ เนี่ย เขาไม่ค่อยกล้าที่จะไปเข้ากลุ่มกับใคร เราก็เหมือนกับเป็นสถานที่หนึ่ง เป็นร้านหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้มา ถ้าเกิดยังไม่มีกลุ่ม ยังไม่มีอะไร ก็มาขี่ดู ขบวนของเราก็จะมีคนเก่าบ้าง คนใหม่บ้าง บางทีชอบนิสัยใจคอกลุ่มไหน ก็อาจจะไปอยู่กับเขา แล้วแต่จะเลือก ประมาณนั้น
HDP: ก็เหมือนกับเป็นจุดเริ่มต้นให้เขา ได้ลองดู เพราะบางทีขี่คันเดียวมันก็เหงาๆ
P' ป๊อก: ใช่ ก็ต้องมีหากลุ่มบ้าง
HDP: แล้วช่วงนี้ปริมาณของคนที่ซื้อรถเพิ่มขึ้นเยอะมั้ยครับ การขยายตัวของตลาด Harley บ้านเรา กลุ่มลูกค้าและอายุเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า
P' ป๊อก: กลุ่มเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ คือเมื่อก่อนเนี่ย มันมีเฉพาะกลุ่มที่หลงไหลจริงๆ คือตำนานอะไรต่างๆ เนี่ยเขาศึกษามาอย่างดี รู้หมดว่าเริ่มต้นเป็นยังไง แต่ทุกวันนี้อาจจะเป็นเพราะว่า มันเป็นแฟชั่น บางทีบางคนไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่เป็นเลย แต่เห็นเพื่อนขี่ อยากเข้ากลุ่มกับเพื่อน หรือว่าเคยขับรถตามกลุ่มนั้นกลุ่มนี้แล้วชอบนิสัยกัน อยากขี่ ก็ซื้อมาขี่ แล้วก็อีกกลุ่มหนึ่งก็คือ เดี๋ยวนี้จะเห็นว่าในโฆษณาในเทรนในอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กางเกงยีนส์ หรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีการโฆษณาในเรื่องของรถ เอามอเตอร์ไซต์ Harley ไปโฆษณาด้วยอย่างเนี้ย มันก็เหมือนกับเป็นแฟชั่นวัยรุ่นก็เริ่มหันเข้ามาเยอะเหมือนกัน จนไปถึงการแต่งตัวไม่ใช่ว่าต้องแต่งตัวอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องอะไรอย่างนี้เหมือนเมื่อก่อน มันไม่ใช่ แต่มันเป็นแนวแฟชั่นอะไรก็ได้ ดูๆแล้ว มันก็สบายตัวขึ้นด้วย คล้ายกับอายุลดลง มีคนเข้ามาหลากหลายมากขึ้น
HDP: อยากให้พี่ป๊อกฝากอะไรกับในแวดวงคนขี่มอเตอร์ไซต์ Harley ทั้งคนเข้ามาใหม่และคนอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย การขี่ การเลือกรถหรือว่าการซื้อ ควรจะซื้อที่ไหน อะไรยังไงบ้างครับ
P' ป๊อก: ครับ การเลือกซื้อก็คงอยู่ที่ลูกค้าตัดสินใจ เพราะว่าแต่ละที่ แต่ละแห่ง ก็มี Profile เป็นของตัวเอง ว่าเป็นมายังไง ก็เลือกเอาว่าความน่าเชื่อถือของแต่ละที่เป็นยังไง แล้วอีกเรื่องที่อยากฝากก็คือเรื่องความปลอดภัยเท่านั้นแหละ เพราะว่าได้ข่าวแล้วเราก็ไม่สบายใจ เราเป็นคนขายไง ถ้าเกิดเราขายแล้วลูกค้าเรามีปัญหา มีอุบัติเหตุ เราก็คงไม่แฮปปี้ เพราะว่าก่อนที่จะขี่รถพวกนี้ต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกับมันค่อนข้างเยอะ ถึงจะออกทริปไปกับเพื่อน อย่างน้อยก็เรียนสัก คอร์สสองคอร์ส หรือไปฝึกในสนามอะไรอย่างเนี้ย เพราะว่าบนถนนเราลองไม่ได้ มันเป็นชีวิตจริงเจอไปก็คือมีปัญหาเลย
HDP: สำหรับเรื่อง Service ของที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ
P' ป๊อก: ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม ทั้งงานซ่อมบำรุงพื้นฐานทั่วไป งาน PDI ที่สามารถเอารถที่ประกอบใหม่จากที่อื่นเข้ามาตรวจเช็คทั้งคัน หรืองานที่มีความละเอียดซับซ้อนมากๆ คือช่างเราเขา Certified ของ Harley มาจากอเมริกา ประสบการณ์ในการทำงานก็ประมาณ 20 ปี อายุเขาก็ค่อนข้างเยอะ 50 กว่าแล้ว ทำได้ทุกอย่าง
HDP: ก็คือตั้งแต่รุ่นเก่า Shovel ก็ทำได้ จนถึงรุ่นมาใหม่ๆ พวกหัวฉีดรุ่นปี 2011 ก็ทำได้
P' ป๊อก: ทำได้ครับ
HDP: แล้วถ้าเกิดออกรถมาจากที่อื่น เกิดปัญหามาทำที่นี่ก็รับทำ
P' ป๊อก: ยินดีครับ เราเน้นบริการให้กับทุกคนอยู่แล้ว ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นรถที่ออกจากทางเรา เพราะเราถือว่า บริการให้กับเพื่อนๆ เวลาเดินทางไปไหนมีเพื่อนๆอยู่เต็มไปหมด อย่างนี้มีความสุขกว่าครับ
พี่ป๊อก แห่ง PHD @ RCA ยังเป็นพี่ชายใจกว้างอยู่เสมอครับ ไม่แบ่งแยกว่าจะต้องเป็นรถที่ซื้อกับทางร้านเท่านั้นถึงให้บริการ สำหรับท่านใดที่มีปัญหาในการดูแลรถ HD สุดรักของท่าน ท่านสามารถนำรถมารับบริการได้ที่ PHD แห่งนี้ และ HDP ยังได้สัมภาษณ์ช่างใหญ่ประจำร้าน Mr. Rudy ผู้มากประสบการณ์จาก USA เดี๋ยวติดตามตอนต่อไปกันครับว่า ประวัติ ความเป็นมาของช่างมือหนึ่งของที่นี่เป็นอย่างไร ทำไมเขาถึงมาอยู่เมืองไทย และจะเป็นที่พึ่งสำหรับพวกเราชาวมอเตอรไซค์ได้ขนาดไหน เดี๋ยวขอเวลาไปแกะเทปสัมภาษณ์ภาษาฝรั่งก่อนครับ
|
